ศูนย์รังสีวิทยาหลอดเลือด และรังสีร่วมรักษา

เป็นอีกหนึ่งศูนย์รักษา ที่ให้บริการด้วยวิธีการทาง “รังสีรักษา”  ที่มีความพร้อมทั้งในด้านการ “วินิจฉัย” และ “การรักษา” 

ที่นี่ เราให้การดูแลผู้ป่วย ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีแพทย์โดยเฉพาะ ทั้งยังพร้อมด้วยเครื่องมือทางรังสีที่มีความทันสมัย และมีประสิทธิภาพ รวมถึงความปลอดภัย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง รวดเร็ว เหมาะสมกับพยาธิสภาพของแต่ละคนในแต่ละโรค ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย ได้มาตรฐานระดับสากล ทั้งยังเปิดให้บริการตลอด 24 ชม. 

3 ส่วนหลัก เพื่อการดูแลผู้ป่วยอย่างครอบคลุม 

1.รังสีร่วมรักษาสมอง และระบบประสาท ( Interventional Neuroradiology )
เป็นการตรวจ และรักษาโรคทางสมอง และประสาทไขสันหลัง เช่น

• การรักษาโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองโดยการใส่ขดลวด
• การลากลิ่มเลือดที่อุดตันเส้นเลือดของผู้ป่วยโรคสมองขาดเลือดเฉียบพลัน

2.รังสีร่วมรักษาหัวใจและหลอดเลือดส่วนปลาย ( cardiac & peripheral vascular intervention )
เป็นการตรวจและรักษาโรคทางหลอดเลือด โดยใช้อุปกรณ์เฉพาะทางขนาดเล็ก เช่น

• การใช้สายสวนหลอดเลือด ซึ่งสามารถใส่ผ่านหลอดเลือดเพื่อไปยังรอยโรคตามอวัยวะต่าง ๆ
• การฉีดสีตรวจดูความผิดปกติของเส้นเลือด ( diagnostic angiography ) อาทิ
  • เส้นเลือดตีบ ( Stenosis )
  • เส้นเลือดอุดตัน ( Occlusion ) , หรือเส้นเลือดโป่งพอง ( Aneurysm )
• การถ่างขยายเส้นเลือดโดยใช้ Balloon ( Balloon Angioplasty ) หรือการใส่อุปกรณ์ค้ำถ่างหลอดเลือด ( stent )
• 3.รังสีร่วมรักษาส่วนลำตัว ( Body Interventional Radiology )
  เป็นการตรวจและรักษาโรคในส่วนของลำตัวทั้งในส่วนของหลอดเลือด และส่วนที่มิใช่หลอดเลือด ( vascular & non-vascular ) เช่น
• การเจาะระบาย
• การเจาะระบายหนอง/ของเสียภายในร่างกาย ( percutaneous drainage )
• การเจาะระบายน้ำดี ( PTBD )
• การเจาะระบายปัสสาวะจากไต ( PCN )
• การวินิจฉัยภาวะเลือดออกในระบบทางเดินหายใจ หรือระบบทางเดินอาหาร
• การเจาะชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจ ( FNA , TTNB & other biopsy )
• หัตถการรังสีร่วมรักษาด้านโรคมะเร็ง ( interventional oncology ) เช่น
  • การรักษามะเร็งตับด้วยการให้เคมีบำบัดผ่านทางหลอดเลือด ( TACE )
  • การทำลายก้อนมะเร็งด้วยความร้อนโดยการสอดเข็มผ่านผิวหนัง ( radiofrequency ablation , microwave ablation )

ทั้งนี้ศูนย์รังสีวิทยาหลอดเลือดและรังสีร่วมรักษา ยังมีเครื่องมือที่มีคุณภาพ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนี้

เครื่องเอกซเรย์ตรวจวินิจฉัย และรักษาโรคหลอดเลือดชนิดสองระนาบ
Biplane Digital Subtraction Angiography ( Biplane DSA )
หนึ่งในนวัตกรรมที่เพิ่มศักยภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดให้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากขึ้น

เครื่อง Biplane DSA ที่สามารถถ่ายภาพหลอดเลือดได้สองระนาบในเวลาเดียวกัน คือ ด้านหน้าและด้านข้าง ทำให้แพทย์ได้ข้อมูลในแง่มิติของภาพที่ดีกว่า ช่วยลดปริมาณสารทึบรังสีที่ผู้ป่วยจะได้รับ และลดเวลาที่ใช้ในการทำหัตถการ

ศักยภาพของเครื่อง Biplane DSA จะช่วยให้แพทย์สามารถใส่สายสวนหลอดเลือดขนาดเล็กได้ถึงจุดที่ต้องการอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีชุดซอฟต์แวร์พิเศษที่ได้รับการออกแบบสำหรับการตรวจรักษาทางการแพทย์โดยเฉพาะ โดยสามารถสร้างภาพ 3 มิติของหลอดเลือด , ภาพเสมือนภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ , ภาพแผนที่หลอดเลือดนำทาง จึงช่วยให้แพทย์ทำการวัดคำนวณและประเมินตำแหน่งที่เกิดความผิดปกติของหลอดเลือดได้ดี โดยซอฟต์แวร์จะทำการประมวลผลออกมาเป็นภาพ เพื่อแสดงการเปรียบเทียบการไหลเวียน และการกระจายของเลือดในสมองทั้งในส่วนที่ปกติและผิดปกติ ทั้งในช่วงก่อนและหลังการทำการตรวจรักษา เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในการรักษาให้กับแพทย์ และทำให้การทำการตรวจรักษานั้น ๆ มีความสะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

เครื่อง Biplane DSA ยังถูกนำมาใช้ เพื่อช่วยในการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการการฉีดยารักษามะเร็งเข้าไปที่ก้อนมะเร็งโดยตรง เช่น มะเร็งตับ หรือในผู้ป่วยที่มีเลือดออกในช่องท้อง แพทย์สามารถใส่สายสวนเข้าไปฉีดยาหรือสารห้ามเลือดในบริเวณจุดเลือดออกได้ ทำให้ผู้ป่วยมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น

เป็นเครื่องอัลตราซาวนด์ค้นหาตำแหน่งของก้อนเนื้อที่ผิดปกติ แล้วใช้เข็มตัดเจาะเนื้อเยื่อ หรือการใช้คลื่นความถี่สูงทำลายเนื้องอกภายใต้การควบคุมทิศทางจากเครื่องอัลตราซาวนด์ ซึ่งเครื่องอัลตราซาวนด์นี้มีเทคโนโลยี Smart Fusion ( โปรแกรม Software ) ที่สามารถรองรับภาพจากช่องทางอื่น ๆ มาอ้างอิงได้ เช่น ภาพจากการตรวจ CT Scan หรือ MRI ทั้งนี้ยังสามารถเปลี่ยนตำแหน่งภาพอัลตราซาวน์ตามการเคลื่อนที่ของหัวตรวจได้ เพื่อใช้ยืนยันรอยโรคในอัลตราซาวนด์ให้ตรงกับรอยโรคที่พบใน CT Scan หรือ MRI ทำให้การตรวจชิ้นเนื้อหรือการใช้คลื่นความถี่สูงได้ตรงกับตำแหน่งที่ต้องการในกรณีที่มีรอยโรคหลายตำแหน่ง จึงทำให้รักษาโรคมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพ

          “ในกระบวนการดูแลผู้ป่วย เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุดและผู้ป่วยมีความมั่นใจในผลการรักษา นอกจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ที่ทำงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ทุกส่วนอย่างใกล้ชิดแล้ว การมีเครื่องมือที่มีศักยภาพถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่มาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรักษาให้ดียิ่งขึ้นได้”