“น้ำดี” สิ่งที่ถูกสร้างจากตับและไหลลงมาเก็บไว้ในถุงน้ำดี โดยในน้ำดีนั้นประกอบไปด้วย คอเลสเตอรอล เลซิธิน และเกลือน้ำดี เมื่อสารประกอบเหล่านี้เกิดการเสียสมดุลก็จะก่อให้เกิด “นิ่วในถุงน้ำดี” โรคที่สามารถเพิ่มระดับความรุนแรงจนอันตรายได้ถึงชีวิต…หากคุณไม่รีบรักษา!

เมื่อเป็นนิ่วในถุงน้ำดี…จะมีอาการอย่างไร

ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการช่วงแรกเริ่มหรือยังไม่รุนแรง อาจรู้สึกว่าท้องอืดคล้ายอาหารไม่ย่อย แต่ถ้าอาการรุนแรงขึ้นหรือมีอาการอักเสบติดเชื้อ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดจุกเสียดบริเวณชายโครงขวา หรือปวดร้าวไปจนถึงบริเวณสะบักขวา มีไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน ตาขาวและผิวหนังมีสีเหลือง และหากนิ่วเกิดหลุดจากถุงน้ำดีมาอุดตันในท่อน้ำดีใหญ่..อาจทำให้เกิดภาวะดีซ่าน ท่อน้ำดีหรือตับอ่อนอักเสบ ซึ่งส่งผลอันตรายถึงชีวิต!

“ผ่าตัด” แนวทางการรักษาที่ได้ผลดีที่สุด

ผู้ป่วยที่อายุน้อยหรือร่างกายแข็งแรงดี มักไม่มีอาการ…จึงต้องให้แพทย์คอยสังเกตอาการและพิจารณาการรักษาตามความเหมาะสม ส่วนผู้ที่มีอาการและไม่มีข้อห้ามใดๆ จำเป็นต้องรักษาด้วย “การผ่าตัด” เท่านั้น! โดยในปัจจุบัน นอกเหนือจากการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีและนิ่วออกทางแผลผ่าตัดหน้าท้อง ยังมีการผ่าตัดแผลเล็กภายในกล้องส่อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็ว

สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอื่นๆ ร่วมด้วย ควรรีบเข้ารับการผ่าตัดออกตอนที่ยังไม่มีอาการและได้รับการควบคุมโรคประจำตัวในระดับขั้นที่ปลอดภัยแล้ว เพราะหากปล่อยให้นิ่วในถุงน้ำดีอักเสบรุนแรง…อาจเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย

ข้อปฏิบัติหลังฟื้นตัวจากการผ่าตัด

เมื่อผู้ป่วยฟื้นตัวจากการผ่าตัดแล้ว สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เพราะน้ำดีที่น้อยลง ทำให้ไม่สามารถย่อยไขมันได้หมด ส่งผลให้ผู้ป่วยขับถ่ายเหลว

นพ. นพดล นฤปิติ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพญาไท 2

นิ่วในถุงน้ำดี...โรคที่มากับอาการท้องอืดแน่นเฟ้อ