กรดโฟลิก…ทำไมจึงจำเป็นกับคุณแม่ตั้งครรภ์

<p><span style="text-align: justify;">เมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์&#8230;คุณแม่ก็เริ่มมีการวางแผนอาหารการกินสำหรับลูกน้อยกันแล้วใช่ไหมล่ะ? สำหรับคุณแม่มือใหม่แล้วละก็ สารอาหารที่จำเป็นและควรรู้จักเอาไว้เลยก็คือ <strong><span style="color: #00826a;">“กรดโฟลิก” </span></strong>ทำไมจึงมีประโยชน์กับคุณแม่ตั้งครรภ์มากเป็นพิเศษ มาดูกัน&#8230;</span></p>
<p>&nbsp;</p>
<div class="paragraph">
<div style="text-align: justify;"><span style="color: #00826a;"><strong>กรดโฟลิก (Folic Acid)</strong></span> หรือเรียกกันอีกอย่างว่า <strong><span style="color: #00826a;">“โฟเลต”</span></strong> คือวิตามินที่มีส่วนช่วยในการสร้างตัวอ่อน ทั้งการสังเคราะห์ ซ่อมแซมพันธุกรรม ควบคุมการสร้างกรดอะมิโนที่จำเป็นในการแบ่งเซลล์ ไปจนกระทั่ง&#8230;สร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวในไขกระดูกของลูกในครรภ์</div>
</div>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong><span style="color: #00826a;">ทำไมคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ต้องทานกรดโฟลิกมากกว่าปกติ?</span></strong></h2>
<div class="paragraph">
<div>ในขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการกรดโฟลิกสำหรับลูกน้อย แต่ร่างกายกลับดูดซึมจากอาหารได้น้อยกว่าปกติ! เพื่อให้ร่างกายคุณแม่และทารก&#8230;ได้รับกรดโฟลิกที่เพียงพอ คุณแม่จึงต้องมีการเสริมกรดโฟลิกให้เพิ่มขึ้นกว่าปกติ เพื่อความสมบูรณ์ต่อการสร้างตัวอ่อนในครรภ์</div>
</div>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong><span style="color: #00826a;">ทานช่วงไหน&#8230;ได้ผลดีที่สุด!</span></strong></h2>
<div class="paragraph">
<div>เพราะในช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 หลังการปฏิสนธิ หลอดประสาทจะปิดอย่างสมบูรณ์ กว่าคุณแม่จะทราบว่าตั้งครรภ์ก็อาจสายเกินไป เพื่อผลลัพธ์ที่ดี! ควรมีการเสริมกรดโฟลิกตั้งแต่วางแผนมีบุตร หรือก่อนตั้งครรภ์ 1-3 เดือน และทานต่อไปอีก 3 เดือน หลังเริ่มตั้งครรภ์จะดีที่สุด</div>
</div>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong><span style="color: #00826a;">ถ้าขาดกรดโฟลิก….จะส่งผลต่อทารกอย่างไร?</span></strong></h2>
<div class="paragraph">
<div style="text-align: justify;">ผลกระทบที่เกิดจากการขาดกรดโฟลิคคือ ทารกจะเสี่ยงต่อความพิการ โดยในรายที่เป็นมาก..จะเกิดความพิการทางสมอง ระบบประสาทส่วนกลาง  และกะโหลกศีรษะไม่ปิด  หากปล่อยให้ตั้งครรภ์จนคลอด&#8230;ทารก<br />
จะมีอายุอยู่ได้ไม่เกิน   24   ชั่วโมง!   ในส่วนของประสาทไขสันหลังเองก็เสี่ยงเกิดความพิการได้เหมือนกัน<br />
การสร้างเม็ดเลือดแดงขนาดใหญ่กว่าปกติ หรือโตไม่เต็มที่ รวมไปถึง..ภาวะสารโฮโมซีสเตอีนสูงกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจ ไขมันอุดตันในหลอดเลือดสมอง โคเลสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน</div>
<div></div>
<h2 style="text-align: justify;"><strong><span style="color: #00826a;">แล้วเสริมโฟลิกแค่ไหนจึงจะพอดี</span></strong></h2>
<div style="text-align: justify;">สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ร่างกายจะต้องการกรดโฟลิก 800 ไมโครกรัมต่อวัน หรือมากกว่าผู้หญิงที่ไม่ตั้งครรภ์ถึง 400 ไมโครกรัม เพราะหากร่างกายมีกรดโฟลิกมากเกินไป&#8230;กรดโฟลิกจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของวิตามินบี 12 อาจส่งผลกระทบให้เป็นโรคโลหิตจางได้</div>
</div>
<p><span style="text-align: justify;">เมื่อคุณแม่เข้าใจถึงความสำคัญและความจำเป็นของกรดโฟลิกแล้ว ควรเลือกทานอาหารจำพวกผักใบเขียว ไข่แดง ตับ ฯลฯ แต่หากคุณแม่ท่านไหนกลัวว่าจะได้รับกรดโฟลิกไม่เพียงพอ สามารถทานเพิ่มเติมในรูปแบบของอาหารเสริม&#8230;ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์ทั้งของคุณแม่และลูกน้อย</span></p>
<div style="clear: both;"></div>


กรดโฟลิก...ตัวช่วยชีวิตชั้นเลิศ ที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรมองข้าม เพราะมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอยู่เพียบ พร้อมบำรุงเต็มขั้นทั้งคุณแม่คุณลูก

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

กรดโฟลิก…ทำไมจึงจำเป็นกับคุณแม่ตั้งครรภ์

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล