ค่า HbA1c ที่เห็นในสมุดตรวจสุขภาพ คืออะไร?
HbA1c หรือการตรวจฮีโมโกลบิน เอ วัน ซี (Hemoglobin A1C; HbA1C) เป็นการตรวจระดับน้ำตาลสะสมในเลือดตลอดระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา ถ้าเราได้รับอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลมากเกินความต้องการที่ร่างกายจะนำไปใช้ น้ำตาลบางส่วนที่เหลือในเลือดจะไปจับกับเม็ดเลือดแดง จนมีปริมาณฮีโมโกลบิน เอ วัน ซี เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
HbA1c แตกต่างอย่างไรกับค่าน้ำตาลทั่วไป
เรามักคุ้นเคยกับการอดอาหาร 6-8 ชั่วโมง เพื่อไปตรวจสุขภาพ ค่าน้ำตาลที่ได้จะบอกได้คร่าว ๆ ว่าวันสองวันที่ผ่านมานั้นคุณทานอาหารที่มีน้ำตาลมากน้อยแค่ไหน แต่การตรวจหาค่า HbA1c เป็นตัวช่วยประเมินความสามารถในการควบคุมเบาหวานในช่วงเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมาได้ชัดเจนกว่า ไม่ใช่เพียงแค่วันสองวันก่อนการตรวจ
ตรวจ HbA1c มีประโยชน์อย่างไร?
- ดูแลเบาหวานและป้องกันโรคแทรกซ้อนดีขึ้น
- ตรวจว่าคุมระดับน้ำตาลได้ดีเท่าใด โดยดูค่าเฉลี่ยน้ำตาลในช่วง 2-3 เดือนก่อน
- Hemoglobin เป็นสารในเม็ดเลือดแดง มีหน้าที่พาออกซิเจนไปส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
- ถ้าน้ำตาลในเลือดสูงอยู่ตลอด จะบอกถึงค่าเฉลี่ยของน้ำตาล ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเม็ดเลือดแดงมีอายุเพียงประมาณ 120 วัน
ดูค่าระดับน้ำตาลสะสมในเลือดอย่างไร?
คนปกติ | คนเสี่ยงเป็นเบาหวาน | คนเป็นเบาหวาน |
(ค่าปกติ) ค่าช่วง HbA1C = น้อยกว่า 6.0 mg% | ค่าช่วง HbA1C = 6.0 mg% ถึง 6.4 mg% | (ค่าสูง) ค่าช่วง HbA1C = มากกว่าหรือเท่ากับ 6.5 mg% |
หากคุณมีค่าระดับน้ำตาลสะสมในเลือดเท่ากับ 6.0 mg% ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านเบาหวานและต่อมไร้ท่อ
หากพบ ‘ค่าน้ำตาลสูง’ ควรทำอย่างไร?
- ปรึกษาแพทย์ต่อเนื่องเพื่อปรับเปลี่ยนการรักษาที่เหมาะสม
- ตรวจร่างกายเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน เช่น ตา ไต หัวใจ ระบบประสาท
- ติดตามค่า HbA1c อย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี หรือตามดุลพินิจของแพทย์
- ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ลดอาหารประเภทให้พลังงาน เช่น คาร์โบไฮเดรต ไขมัน
- ลดน้ำหนักด้วยวิธีที่เหมาะสม
- ทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 ครั้งต่อสัปดาห์ เช่น การออกกำลังกาย การเดินเร็ว ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
ถ้าปล่อยให้ค่าน้ำตาลสูง…จะเกิดอะไรขึ้น
หากเมื่อไหร่ที่ระดับน้ำตาลในเลือด (HbA1c )มีค่าเท่ากับหรือมากกว่า 6.5% นั่นอาจเป็นสัญญาณที่นำไปสู่โรคเบาหวานและโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ได้ เช่น โรคผนังหลอดเลือดแดง โรคตา โรคไต โรคระบบประสาท โรคติดเชื้อ เป็นต้น และอาจตกอยู่ในสภาวะน้ำตาลในหลอดเลือดสูง มีความเข้มข้นของเลือดสูง ซึ่งสามารถทำให้ช็อกหมดสติได้ ดังนั้นยิ่งเจอความผิดปกติเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเท่ากับเพิ่มโอกาสในการรักษาก่อนที่อาการจะลุกลามและร้ายแรง
เบาหวาน ตรวจก่อน รู้ก่อน ลดภาวะแทรกซ้อนระยะยาว