เมื่อมี ‘อาการเจ็บคอ’ เรามักจะคิดว่าเป็นอาการหนึ่งของไข้หวัด หรืออาจเป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักอาการก็ยังไม่หาย หรือแม้แต่กินยาแก้เจ็บคอหรือแก้ไข้หวัดแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น หากกลับยิ่งรู้สึกเจ็บคอมากขึ้น หรือกลับมาเป็นบ่อยๆ จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง แถมยังรู้สึกว่ามีกลิ่นปาก นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรค “ทอนซิลอักเสบ” ที่หากปล่อยไว้ก็อาการก็อาจลุกลามไปถึงอวัยวะอื่นๆ ได้
“ทอนซิล” ประตูด่านแรกที่วันหนึ่งก็อาจชำรุดได้
ทอนซิล…เป็นต่อมน้ำเหลืองชนิดหนึ่งที่อยู่บริเวณต้นคอ ซึ่งเป็นแหล่งรวมของเม็ดเลือดขาว เปรียบได้กับประตูด่านแรกของร่างกายที่จะช่วยปกป้องคุณจากแบคทีเรียหรือไวรัสในระบบทางเดินอาหารและระบบทางเดินหายใจ หากวันใดทอนซิลเกิดการติดเชื้อก็อาจทำให้เกิดอาการ “ทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน” ได้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้มักกลายเป็นโรคเรื้อรัง แถมยังมี “กลิ่นปาก” และรักษาได้ยากขึ้น เมื่อทอลซิลทำงานได้ไม่ดี เชื้อโรคต่างๆ ก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น
แบคทีเรีย Streptococcus ทำ “ทอนซิลอักเสบ“ และเจ็บคอ
70-80% ของโรคทอนซิลเกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งการติดเชื้อของต่อมทอนซิลอาจลุกลามทำให้เกิดฝีที่คอ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบได้ นอกจากนี้ ทอนซิลอักเสบที่เกิดจากแบคทีเรียที่สำคัญชนิดหนึ่งที่ชื่อ “สเตรปโตคอคคัส”(streptococcus) จะทำให้ผู้ป่วยเจ็บคอบ่อย และจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างน้อย 7-10 วันเสมอ เพื่อกำจัดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคกรวยไตอักเสบหรือโรคหัวใจรูติด ซึ่งเป็นปฏิกิริยาแทรกซ้อนที่เกิดตามหลังเมื่อทอนซิลอักเสบทุเลาแล้ว
อาการแบบนี้ คือ สัญญาณเตือนจาก..ทอนซิลอักเสบ
- เจ็บคอ กลืนอาหารหรือดื่มน้ำก็เจ็บ กดเจ็บบริเวณคอตรงตำแหน่งของต่อมทอนซิล เนื่องจากทอนซิลที่มีผิวขรุขระมีขนาดโตขึ้น
- มีกลิ่นปาก
- มีไข้ได้ทั้งไข้สูงหนาวสั่น หรือไข้ต่ำ ขึ้นกับชนิดของเชื้อโรค
- ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยเนื้อตัว อาจมีตาแดง
- คัดจมูก มีน้ำมูกแต่ไม่มาก น้ำมูกมักใส อาจมีอาการปวดหูร่วมด้วย เพราะการอักเสบของคอมักส่งผลถึงการอักเสบของหู
- ต่อมทอนซิลอาจโตเล็กน้อยหรือโตมาก โดยมักโตทั้งสองข้าง
- อาจมีสารคัดหลั่งสีเหลืองๆ ปกคลุมหรือมีจุดขาวๆ เหลืองๆ คล้ายหนองกระจายทั่วไป
- มีต่อมน้ำเหลืองด้านหน้าลำคอส่วนบนโตทั้งสองข้าง คลำได้และเจ็บ
การรักษาทอนซิลอักเสบ
การรักษาทอนซิลอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัส โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ ทานยาแก้ปวดและลดไข้ หรือให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หาก ‘ทอนซิลอักเสบเรื้อรัง’ อาจมีการรักษา “แบบผ่าตัด” ซึ่งจะพิจารณาจาก ทอนซิลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนอุดกั้นระบบทางเดินหายใจ ทำให้ผู้ป่วยนอนกรน หรือหยุดหายใจขณะหลับ หรือมีภาวะต่อมทอนซิลโตข้างเดียว ซึ่งมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมทอนซิล