How to take

ปัจจุบันการซื้อวิตามินหรืออาหารเสริมมากินเองนั้นทำได้ง่ายเหมือนการซื้อขนม แต่รู้หรือไม่ว่า! การได้รับสารอาหารบางอย่างมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ  วันนี้ พญ.อรกมล อินกองงาม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน &#8216;เวชศาสตร์ชะลอวัย&#8217; โรงพยาบาลพญาไท 3 จึงได้นำข้อมูลดีๆ มาฝากว่า การที่เราจะปรับระดับวิตามินในร่างกายให้สมดุลและเพียงพอนั้นจะต้องทำอย่างไร? และทำไมวิตามินจึงมีผลต่อความแข็งแรงและช่วยให้ดูอ่อนวัยกว่าอายุจริงได้
&nbsp;
<h2 style="color: #008080;">วิตามินคืออะไร? 
</h2>
พญ.อรกมล อธิบายว่า วิตามินเป็นกลุ่มสารประกอบอินทรีย์ที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย ซึ่งเราจะต้องได้รับจากการกินอาหารประเภทต่างๆ เพราะร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง (ยกเว้นวิตามินดี ที่จะมีการสังเคราะห์ที่ผิวเมื่อได้รับแสงแดด) โดยวิตามินแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ
<ul>
<li>วิตามินที่ละลายในน้ำ เช่น วิตามินบี และวิตามินซี</li>
<li>วิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ, ดี, อี และวิตามินเค</li>
</ul>
&nbsp;
<h2>วิตามินแต่ละชนิด มีหน้าที่และประโยชน์ต่อร่างกายต่างกันอย่างไร ?</h2>
<ul>
<li>วิตามินเอ เกี่ยวกับสายตาและการเจริญเติบโต</li>
<li>วิตามินบี เกี่ยวกับระบบประสาท การสร้างพลังงานและเม็ดเลือด</li>
<li>วิตามินซี เกี่ยวกับการสร้างคอลลาเจน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ</li>
<li>วิตามินดี เกี่ยวกับกระดูก</li>
<li>วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ</li>
<li>วิตามินเค เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดและกระดูก</li>
</ul>
&nbsp;
<h2 style="color: #008080;">ชะลอวัยได้ ด้วยวิตามิน</h2>
เหตุผลที่วิตามินช่วยชะลอวัยนั้น พญ.อรกมล บอกว่า เพราะวิตามินจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการสร้างพลังงาน การสร้างภูมิคุ้มกันโรค การซ่อมแซมร่างกาย รวมถึงการต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะวิตามินกลุ่มที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ คือ วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี
&nbsp;
ทั้งนี้ ในประเทศไทยมีคำแนะนำถึงขนาดของวิตามินที่ควรได้รับในแต่ละวัน เรียกว่า Thai recommended daily intakes หรือ Thai RDI เพื่อให้การทำงานของร่างกายเป็นปกติ และไม่เกิดโรคขาดวิตามินที่รุนแรง
&nbsp;
<h2 style="color: #008080;">ใครบ้าง เสี่ยงขาดวิตามิน ?</h2>
เพราะอาหาร คือแหล่งที่มาของวิตามินที่ดีที่สุด ซึ่ง พญ.อรกมล ได้บอกว่า การรับประทานอาหารที่หลากหลายตามหลักโภชนาการจะช่วยให้เราได้รับวิตามินอย่างครบถ้วนและเพียงพอ ซึ่งในปัจจุบันไม่ค่อยพบการขาดวิตามินในคนไทยเหมือนในอดีต แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องระวังถึงปัจจัยเหล่านี้เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายมีวิตามินไม่เพียงพอ
<ul>
<li>การเป็นผู้สูงอายุ</li>
<li>การงดรับประทานเนื้อสัตว์</li>
<li>การผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้</li>
<li>การกินยาบางอย่างที่ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินบางชนิดลดลง</li>
<li>การได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ</li>
<li>การมีพฤติกรรมที่ทำให้ร่างกายสูญเสียวิตามินอย่างรวดเร็ว เช่น ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน</li>
<li style="list-style-type: none;"></li>
</ul>
<h2>อาการแบบนี้ อาจเพราะ “ขาดวิตามิน” </h2>
การขาดวิตามินแบ่งเป็น 2 กรณี คือ
<ul>
<li>ขาดวิตามินแบบชัดเจน จนเกิดโรคหรืออาการแสดง เช่น การขาดวิตามินบี 12 และโฟเลต ทำให้เกิดความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง หรือการขาดวิตามินซี ทำให้เหงือกบวม เลือดออกตามไรฟัน เป็นต้น</li>
<li>ขาดวิตามินแบบไม่พอเพียง (suboptimal vitamin intake) เช่น ขาดวิตามินบี 12 จากการกินมังสวิรัติ ทำให้มีอาการไม่สบายทางกายอย่างการอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น การเผาผลาญพลังงานไม่ดี นอนไม่หลับ ผิวพรรณไม่สดใส เป็นต้น ซึ่งแพทย์มักจะซักประวัติและตรวจร่างกาย เพื่อให้ทราบถึงการใช้ชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหาร อันเป็นสาเหตุใหญ่ๆ ของการขาดวิตามิน</li>
</ul>
&nbsp;
<h2 style="color: #008080;">เช็กได้ไม่ยาก เราขาดวิตามินอะไร? 
</h2>
พญ.อรกมล บอกว่า ปัจจุบันเราสามารถตรวจวิตามินหลักๆ และสารต้านอนุมูลอิสระได้อย่างครบถ้วน เช่น วิตามินเอ (เบต้า แอลฟ่าแคโรทีน และไลโคปีน) วิตามินบี วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี (อัลฟ่าและแกมม่าโทรโคเฟรอล) โคเอนไซม์คิวเท็น รวมทั้งสามารถตรวจแร่ธาตุต่างๆ ที่ร่างกายต้องใช้ร่วมกันในการทำงานของวิตามินต่างๆ ด้วย
&nbsp;
โดยแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยจะพูดคุย เพื่อซักประวัติและวิเคราะห์ปัญหาของแต่ละคน ว่าการใช้ชีวิตประจำวันมีผลต่อสุขภาพอย่างไร แพทย์จะแนะนำให้ตรวจเลือดเพื่อดูระดับของวิตามินที่สงสัยว่าไม่เพียงพอ เมื่อได้ผลเลือดแล้วจะแนะนำการปรับวิตามินให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำเกินไป แนะนำอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามิน และขนาดของวิตามินที่ควรรับประทานเสริม ซึ่งสามารถจัดทำวิตามินเฉพาะบุคคลเพื่อแก้ปัญหาเป็นรายกรณีได้
&nbsp;
<h2 style="color: #008080;">ซื้อวิตามินกินเอง ยังไง&#8230; ไม่ให้เสี่ยง 
</h2>
พญ.อรกมล บอกว่า การซื้อวิตามินกินเองในช่วงที่ร่างกายมีความเครียดหรือรับประทานอาหารไม่ครบถ้วน หากเป็นวิตามินจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน กินในปริมาณไม่เกินที่ RDI ระบุไว้ จะถือว่าค่อนข้างปลอดภัย แต่เราต้องรู้ว่าร่างกายเราขาดวิตามินตัวนั้นๆ จริง หรืออยู่ในภาวะที่ร่างกายต้องใช้วิตามินตัวนั้นสูงกว่าปกติแค่ไหน
&nbsp;
<h2 style="color: #008080;">กินวิตามินมากเกินไปก็ไม่ดี</h2>
ในทางตรงกันข้าม การรับวิตามินมากเกินไปก็ให้โทษกับร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินกลุ่มที่ละลายในไขมัน ดังนี้
<ul>
<li>วิตามินเอ ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ไม่ควรรับวิตามินเอมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความผิดปกติของทารกในครภ์</li>
<li>เบต้าแคโรทีน คนที่สูบบุหรี่หรือต้องสัมผัสแร่ใยหิน จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดมากขึ้น</li>
<li>วิตามินดี ควรมีการเจาะเลือดเพื่อดูไม่ให้ระดับวิตามินดีในเลือดสูงเกินไป เพราะอาจส่งผลให้ระดับแคลเซียมในเลือดผิดปกติ</li>
</ul>
&nbsp;
<h2 style="color: #008080;">แข็งแรงและอ่อนกว่าวัย ไม่ใช่เรื่องยาก&#8230; แค่ทำสิ่งนี้</h2>
สิ่งจำเป็นของการดูแลตัวเองนั้นคือการใช้ชีวิตให้สมดุล ลดความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอและเหมาะสม รับประทานอาหารที่ปรุงด้วยความร้อนไม่สูง เลี่ยงอาหารแปรรูป กินอาหารให้หลากหลาย เพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนทั้งชนิดและปริมาณ 

&nbsp;
หากต้องการรับประทานวิตามินเสริม หรืออาหารเสริมควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวหรือแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย เพื่อจะได้รับข้อมูลและคำแนะนำในการเลือกวิตามินหรืออาหารเสริมที่ถูกต้องและตรงกับจุดประสงค์ของท่าน
&nbsp;
<div style="border-radius: 10px; border: 2px solid #71CC98; padding: 20px;">
หากคุณกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองหรือคนที่คุณรัก? วางแผนล่วงหน้าด้วยแผนประกันสุขภาพ คุณจะได้รับการคุ้มครองอย่างครอบคลุม ทั้งค่ารักษาพยาบาล (กรณีป่วยแอดมิทเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล) ค่าห้อง ค่าบริการทางการแพทย์และค่ายา การมีประกันสุขภาพสามารถช่วยให้การจัดการกับผลข้างเคียงราบรื่นและมีประสิทธิภาพ แล้วคุณจะได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจและสบายใจทุกวัน
&nbsp;
หากสนใจศึกษาข้อมูลการวางแผนทำประกันสุขภาพ แผน Exclusive Care @ BDMS สามารถโทรปรึกษาฟรีได้ทันที 02-822-1155 หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ <a href="https://bit.ly/490QfKh" target="_blank" rel="noopener">Allianz Ayudhya</a>
</div>
&nbsp;
<a href="https://bit.ly/490QfKh"><img loading="lazy" decoding="async" class="alignnone wp-image-350685 size-full" src="https://pyt-storage.sgp1.cdn.digitaloceanspaces.com/wp-content/uploads/2024/11/Nov-PT-PL_Article-pages.jpg" alt="" width="728" height="90" /></a>

ปัจจุบันเราสามารถตรวจเลือดเพื่อหาระดับวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายได้ โดยแพทย์จะนำผลตรวจมาช่วยวางแผนการเลือกชนิดอาหาร การกินอาหารเสริม และการรับวิตามินที่จำเป็นเพื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการมีสุขภาพดี และยังเป็นการช่วยชะลอวัยอีกด้วย

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

กิน “วิตามิน” อย่างไร... ให้แข็งแรงและอ่อนวัย

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล