ริดสีดวงทวาร โรคใกล้ตัวที่รักษาหายได้..โดยไม่ต้องกลัวเจ็บ

ริดสีดวงทวาร โรคใกล้ตัวที่รักษาหายได้..โดยไม่ต้องกลัวเจ็บ

ริดสีดวงทวารคือโรคชนิดหนึ่งที่สร้างความกังวลใจและรบกวนการใช้ชีวิตของคนไข้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องความเจ็บปวดที่รบกวนทางกาย ความอายที่จะมาพบแพทย์ และกลัวในการรักษา แต่ปัจจุบันได้มีทางเลือกในการรักษามากมายที่ทำให้คนไข้หายขาด เจ็บตัวน้อยและฟื้นตัวได้ไว โดย

 

นายแพทย์ ธีรสันติ์ ตันติเตมิท ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ประจำโรงพยาบาลพญาไท 2 แนะนำว่าผู้ป่วยควรมาพบแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมก่อนระยะของโรคจะรุนแรงมากขึ้น

 

ริดสีดวงทวาร..ใครๆ ก็เป็นได้

เนื้อเยื่อริดสีดวงทวารประกอบด้วยหลอดเลือดดำ, เนื้อเยื่อที่มีความยืดหยุ่นสูง บริเวณปลายสุดของลำไส้ใหญ่ และที่ขอบรูทวารหนักโป่งพองและยื่นออกมา โดยโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัยแต่ส่วนใหญ่มักจะพบในคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ไม่ค่อยพบบ่อยในวัยรุ่น (โดยเฉพาะถ้าเป็นริดสีดวงภายใน)

 

ชนิดของริดสีดวงทวาร

  1. ชนิดเป็นภายใน คือ ริดสีดวงทวารที่เกิดเหนือ ประมาณ 1.5 – 2 cm. จากรูเปิดทวารหนักตามปกติจะไม่โผล่ออกมาให้เห็นและคลำไม่ได้ และมักจะถูกคลุมด้วยเยื่อลำไส้ใหญ่ตอนปลายสุดไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดในขณะที่ยังไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่จะมีอาการเลือดออกและพบก้อนเป็นอาการหลัก
  2. ชนิดเป็นภายนอก คือ ริดสีดวงที่เกิดขึ้นบริเวณปากรอยย่นของทวารหนัก สามารถมองเห็นและคลำได้ หลอดเลือดที่โป่งพองจะถูกคลุมด้วยผิวหนัง คนไข้จะมีอาการเจ็บและเลือดออก

 

การแบ่งระยะของริดสีดวงทวาร

โดยเป็นการแบ่งเฉพาะริดสีดวงภายใน ภายนอกจะไม่แบ่งเป็นระยะ

  • ระยะที่ 1 มีเส้นเลือดดำโป่งพองในทวารหนักแต่ยังไม่มีอาการอะไรมาก อาจจะมีเลือดออกเวลาเบ่งอุจจาระหรือท้องผูก
  • ระยะที่ 2 หัวริดสีดวงโตมากขึ้น และรับรู้ได้ขณะที่ถ่ายอุจจาระ เริ่มมีหัวริดสีดวงผุดออกมา แต่สามารถหดกลับไปเองได้แต่อาจจะมีเลือดออกร่วมด้วย
  • ระยะที่ 3 ก้อนริดสีดวงจะมีขนาดใหญ่ขึ้น ออกมาข้างนอกมากขึ้น แต่กลับเข้าไปเองไม่ได้ เวลาถ่ายเสร็จจะต้องช่วยดันกลับเข้าไป บางทีต้องใช้เวลานานกว่าจะหดกลับเข้าไปเอง
  • ระยะที่ 4 ริดสีดวงกำเริบมากและสามารถมองเห็นได้จากภายนอก มีการอักเสบ บวม และทำให้คนไข้นั่งไม่ได้ ไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้

 

ปัจจัยที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนัก

  1. ภาวะท้องผูกเรื้อรัง
  2. ท้องเสียถ่ายอุจจาระบ่อย ๆ
  3. อุปนิสัยเบ่งอุจจาระอย่างมากเพื่อพยายามขับอุจจาระก้อนสุดท้ายให้ออกไป
  4. อุปนิสัยใช้เวลานั่งถ่ายอุจจาระนาน เช่น อ่านหนังสือขณะถ่ายอุจจาระ
  5. กรณีไม่ทราบสาเหตุ..อาจพบว่าบุคคลที่มีประวัติในครอบครัวเป็นริดสีดวงทวารหนัก จึงมีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าปกติ

 

แนวทางการรักษาริดสีดวงภายใน

แบบไม่ผ่าตัด

  1. รัดยาง การรัดยางเป็นการรักษาที่ไม่เจ็บมาก แต่จะรู้สึกหน่วงประมาณ 1-3 วัน เหมือนปวดท้องถ่าย การรัดยางจะช่วยให้ริดสีดวงระยะ 2-3 สามารถหดกลับไปยังระยะ 1 ได้ และกลายเป็นรอบแผลเป็น หลังจากรัดแล้วยางจะหลุดไปเอง แผลตรงที่รัดยางหดกลับไป ไม่ต้องเสียเลือด และไม่ต้องเย็บแผล
  2. ฉีดยา ช่วยให้เส้นเลือดแข็งและหดไป เป็นยาชนิดเดียวกันกับการรักษาเส้นเลือดขอด แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการรัดยางแล้ว การรัดยางจะได้ผลที่แน่นอนและตรงจุดกว่า กรณีคนไข้เป็นริดสีดวงหลายหัวอาจจะไม่ทั่วถึงและไม่ได้ผลดีเท่ากับการรัดยางหรือผ่าตัด วิธีนี้จึงใช้รักษาเลือดออกเป็นหลัก

แบบผ่าตัด

  1. ผ่าตัดมาตรฐาน การผ่าตัดจะผ่าเอาก้อนเนื้อออกไปแล้วเย็บปิดปากแผล ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ขึ้นไป นอนรพ. ประมาณ 1-2 วัน และพักที่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์ งดออกกำลังกาย ไม่ต้องแช่ก้นในด่างทับทิมหรือแช่ในน้ำอุ่น สามารถใช้น้ำล้างได้ปกติ
  2. รักษาด้วยเลเซอร์ ต้องเจาะเข้าไปที่แผลเพื่อเลเซอร์เข้าไปทำลายริดสีดวง เจาะเข้าบริเวณข้างๆ แผล ไม่ได้ผ่าทวารหนักโดยตรง ขนาดรอยเจาะประมาณ 2-3 มิลลิเมตร หลังจากผ่าเสร็จไม่ต้องเย็บแผลหลังจากผ่าตัดสามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นนาน และไม่ต้องแช่ก้นด้วยด่างทับทิม
  3. เครื่องมือตัดเย็บอัตโนมัติ เป็นเครื่องมือใช้แล้วทิ้ง ใช้เวลาน้อยในการผ่าตัด แต่ต้องทำโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษาเพราะตำแหน่งที่ต้องตัดใกล้กับช่องคลอด วิธีนี้ทำได้เฉพาะคนที่เป็นริดสีดวงภายในเท่านั้น หลังการผ่าตัดใช้เวลาพักฟื้นแค่ 2-3 วัน และฟื้นตัวได้เร็ว
  4. การเย็บหลอดเลือดริดสีดวง วิธีนี้จะเจ็บน้อย แต่ต้องบล็อกหลังและดมยาสลับก่อนผ่าตัดต้องเปิดแผลเข้าไปแล้วก็เย็บหลอดเลือดที่หล่อเลี้ยงริดสีดวงเพื่อให้หดหรือฝ่อลง

 

แนวทางการรักษาริดสีดวงภายนอก

  1. ริดสีดวงภายนอกส่วนใหญ่จะเป็นแล้วหายเอง ไม่อันตรายมาก อาการที่พบบ่อยคือ ก้นเรียบอยู่แล้ว แต่เมื่อเบ่งก็เจ็บก้นและเกิดอาการอักเสบขึ้นมา แบบนี้เรียกว่าริดสีดวงภายนอกอักเสบ สามารถเป็นได้ทุกคนที่ติดนิสัยชอบเบ่ง หากเป็นแล้วไม่หายเองต้องมาผ่าเพื่อเอาลิ่มเลือดออก
  2. เมื่อก้อนเนื้อมันเติบโตมากขึ้นก็ต้องผ่าตัด เพราะเมื่อถ่ายบ่อยๆ จะยิ่งเจ็บมากขึ้น ไม่ต้องรอให้เป็นเยอะแล้วค่อยมาพบแพทย์ก็ได้ สามารถมาตรวจได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ต้องผ่าตัดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีวิธีอื่น และต้องใช้แพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะโรคทวารหนัก การผ่าตัดต้องดูเป็นรายบุคคลไป

 

อาการหลังผ่าตัดริดสีดวงทวาร..ที่ควรรีบกลับมาพบแพทย์

  1. ถ่ายเป็นลิ่มเลือดปริมาณมากแต่ไม่ค่อยมีอุจจาระออกมา
  2. เจ็บแผลมาก ปวดตลอดเวลา ไม่ดีขึ้น
  3. มีหนองหรือน้ำเหลืองออกมาในปริมาณมาก
  4. มีไข้สูงโดยไม่ทราบสาเหตุ

นัดหมายแพทย์

แชร์

หากสนใจต้องการปรึกษาแพทย์

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ




Loading...