สิ่งสำคัญในการควบคุมโรคเบาหวานให้คงที่ ก็คือการคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงหรือต่ำจนเกินไป ซึ่งโดยทั่วไปผู้ป่วยเบาหวานจะทราบปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ ก็ต่อเมื่อทำการตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยอุปกรณ์เฉพาะ ความถี่ในการตรวจก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ตามความรุนแรงของอาการและการวินิจฉัยของแพทย์ แต่วันนี้ผู้ป่วยเบาหวานจะสามารถรู้ระดับน้ำตาลในเลือดได้ผ่านสมาร์ทโฟนของคุณ
CGM เทคโนโลยีใหม่ เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ป่วยเบาหวาน
จริงหรือ? ที่เราจะสามารถรู้ระดับน้ำตาลในเลือดผ่านสมาร์ทโฟนได้ เราจะไปหาคำตอบพร้อมๆกัน ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักกับเจ้าเครื่องวัดระดับน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง Continuous glucose monitoring หรือ CGM กันก่อน CGM คือเครื่องมือที่ใช้วัดระดับน้ำตาลโดยการใช้ sensor ติดไว้ที่ชั้นใต้ผิวหนัง (subcutaneous) ซึ่งจะทำการวัดระดับน้ำตาลและส่งค่าที่อ่านได้ไปยังเครื่องรับ โดยจะแสดงค่าน้ำตาลออกมาอย่างต่อเนื่องสูงถึง 288 ค่า/วัน เลยทีเดียว
CGM แบ่งเป็น 2 แบบได้แก่
- Real time continuous glucose monitoring system (RT-CGM) ซึ่งเป็นเครื่องมือแสดงผลค่าน้ำตาลปัจจุบันที่หน้าจอทันที สามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงของค่าน้ำตาลได้ตลอดเวลา ทำให้การดูแลเบาหวานเป็นไปอย่างปลอดภัยมากขึ้น
- Professional continuous glucose monitoring system เป็นเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลต่อเนื่อง ที่จะติดไว้เป็นระยะเวลา 6 วัน จากนั้นก็จะถอดเครื่องออกมาเพื่อดูผลน้ำตาลย้อนหลัง เป็นข้อมูลที่เหมาะสำหรับบุคลากรทางการแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“CGM สามารถใช้ได้กับผู้เป็นเบาหวานทุกชนิด ผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์เป้าหมาย ผู้มีภาวะน้ำตาลต่ำโดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า สามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่”
CGM ต่างจากการวัดระดับน้ำตาลอื่นอย่างไร?
ค่าน้ำตาลที่ได้จากการติดเครื่อง CGM จะเป็นค่าน้ำตาลจากของเหลวระหว่างเซลล์ (Sensor Glucose-SG) ซึ่งเป็นการวัดค่าอิเล็กตรอนและแปลงเป็นค่าน้ำตาล ส่งสัญญาณผ่านบลูทูธทุก 5 นาที และจะแสดงผลไปที่โทรศัพท์มือถือที่เชื่อมสัญญาณไว้ เป็นการแสดงรูปแบบและแนวโน้มของค่าน้ำตาลที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน ส่วนการวัดระดับน้ำตาลจากปลายนิ้ว (SMBG) เป็นการวัดค่าน้ำตาลในเลือดจากปลายนิ้ว (Blood Glucose-BG) ซึ่งจะทราบค่าน้ำตาลเฉพาะเวลาที่เจาะเท่านั้น
ติด CGM แล้วยังต้องเจาะเลือดปลายนิ้วอยู่หรือไม่?
การติด CGM เป็นการวัดน้ำตาลจากสารน้ำระหว่างเซลล์ เพื่อดูรูปแบบของน้ำตาลที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน จึงจำเป็นต้องมีวัดค่าน้ำตาลที่ได้จากการเจาะเลือดปลายนิ้วร่วมด้วย เพื่อให้มั่นใจในความถูกต้องของผลที่ได้
เราสามารถเจาะน้ำตาลปลายนิ้วเพื่อเทียบค่า CGM เวลาใดได้บ้าง?
แนะนำให้เจาะน้ำตาลปลายนิ้วก่อนมื้ออาหาร แต่ละมื้อ หรือก่อนนอน เพราะเป็นช่วงที่ค่าน้ำตาลจากเลือดปลายนิ้วและค่าน้ำตาลของของเหลวระหว่างเซลล์จะมีค่าใกล้เคียงกันที่สุด
รู้ให้ชัด ประโยชน์ของ CGM
- Alarm : เมื่อมีระดับน้ำตาลสูงหรือต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด เครื่องจะมีการเตือนให้ผู้เป็นเบาหวานทราบทันที
- Predictive Alert : สามารถเตือนล่วงหน้าได้ถึง 60 นาทีเมื่อมีระดับน้ำตาลเพิ่มขึ้นหรือต่ำลง
- Remote Monitoring : แพทย์และผู้ดูแลสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและติดตามผลได้ตลอดเวลาจากอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้
- Carelink® : ข้อมูลสำคัญจะถูกเก็บโดยอัตโนมัติ และสามารถแสดงรายงานผลได้หลายรูปแบบ
เครื่อง CGM สามารถรายงานผลแบบเรียลไทม์ แจ้งเตือนเมื่อระดับน้ำตาลสูงหรือต่ำกว่าค่าที่กำหนด ช่วยให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลอย่างได้ผล การแสดงผลแบบเรียลไทม์ยังช่วยให้ทราบว่าอาหารชนิดใดที่ทำให้ค่าน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ทราบปริมาณการกินที่เหมาะสม นำไปสู่การดูแลรักษาผู้ป่วยเบาหวานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ขอบคุณข้อมูลจาก Medtronic (Thailand) Ltd.