สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกวันมาเป็นเวลาเนิ่นนาน จนทำให้สิวอุดตันผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด แถมยังไม่รู้เลยว่าต้องใส่ไปอีกนานแค่ไหน ในเมื่อ “สิวเก่าก็ยังไม่หาย…สิวใหม่ก็ต้องป้องกัน” งั้นเราไปฟังคำแนะนำจาก พญ.วัลลภา อัศวเบ็ญจาง แพทย์สาขาตจวิทยา ศูนย์ความงาม โรงพยาบาลพญาไท 2 เกี่ยวกับปัญหาสิวหน้ากากนี้กัน

สิวหน้ากากอนามัย “ต่างกับ” สิวทั่วไปยังไงนะ

แม้จะได้ขึ้นชื่อว่า “สิว” แต่สิวหน้ากากก็ยังมีความแตกต่างกับสิวทั่วๆ ไปที่หลายคนคุ้นเคย โดยคุณหมอได้อธิบายว่า.. สิวหน้ากาก จะเกิดขึ้นภายใต้หน้ากากอนามัย เนื่องจากความอับชื้น อุณหภูมิที่สูงขึ้น สมดุลผิวใต้หน้ากากที่เปลี่ยนไป ทั้งยังเป็นจุดที่มีการเสียดสีบ่อยครั้ง จากการที่ขอบหน้ากากถูกกดให้แนบสนิทไปกับผิวหน้า และมีการเคลื่อนขึ้นลงไปมาโดยเฉพาะเวลาที่เราพูดจนเกิดการเสียดสีซ้ำๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดสิวได้

เลือกหน้ากากอนามัยยังไง ให้สิวก่อกวนน้อยลง

สำหรับเกณฑ์ในการเลือกหน้ากากอนามัย คุณหมอได้ให้คำแนะนำว่า.. ควรเลือกจากลักษณะกิจกรรมที่เราทำในแต่ละวัน เช่น ถ้าต้องเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงก็ควรเลือกเป็นหน้ากากทางการแพทย์ เพราะจำเป็นต้องเน้นความสำคัญไปในเรื่องของประสิทธิภาพการป้องกันมากกว่า แต่หากอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ มีการเส้นระยะห่างจากคนอื่นๆ หรืออยู่บ้าน ควรเลือกเป็นหน้ากากผ้าที่มีเนื้อสัมผัสนิ่ม ไม่บาดผิวหน้า เพื่อช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวอุดตัน

ในเรื่องของขนาดหรือรูปแบบของหน้ากากอนามัยก็เป็นสิ่งที่สำคัญ หากหลวมเกินไป สวมใส่ไม่พอดี ก็จะทำให้เกิดการขยับเขยื้อนได้ง่าย เกิดการเสียดสีบ่อยครั้ง หรือหากแน่นมากเกินไป ก็จะส่งผลให้เกิดการกดทับเสียดสี อับชื้นสูง ซึ่งเป็นปัจจัยในการกระตุ้นให้เกิดสิวหน้ากากได้เหมือนกัน

รู้ไหม? ยิ่งใส่หน้ากากนาน (ผิว)หน้ายิ่งต้องการพัก

หัวใจสำคัญในการป้องกันสิวหน้ากาก นอกจากชนิดและรูปแบบของหน้ากากอนามัยแล้ว คุณหมอยังแนะนำเคล็ดลับเพิ่มเติมด้วยว่า…หลังสวมใส่ติดต่อกันยาวนาน 4 ชั่วโมง ควรหาเวลาพักผิวหน้าด้วยการถอดหน้ากากอนามัยออกชั่วคราวในสถานที่ปลอดภัย เพื่อเป็นการลดอุณหภูมิและความชื้นภายใต้หน้ากาก และถ้าหน้ากากชื้นควรเปลี่ยนชิ้นหน้ากากระหว่างวัน จะช่วยป้องกันโอกาสในการเกิดสิวอุดตันได้

เมื่อเป็นสิวหน้ากาก ใช้ “ยารักษาสิว” ที่มี…ได้ไหมนะ

สำหรับคนที่มักมีปัญหาเรื่องสิวบ่อยครั้งมาก่อน แน่นอนว่าจะต้องมียารักษาสิวหรือยาแต้มสิวติดบ้านไว้อยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มยาสิวโดยส่วนใหญ่มักจะมีฤทธิ์ทำให้แห้ง ลอก ผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน ลดความมัน จึงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ เพราะสิวหน้ากากมักจะเกิดตรงร่องจมูก ร่องแก้ม รอบปาก คาง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความเซนซิทีฟสูง

คุณหมอจึงได้แนะนำการเลือกใช้ยาแต้มสิวในเบื้องต้นว่า.. ควรเลือกแบบที่ออกฤทธิ์ไม่แรงมาก เพื่อป้องกันการระเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ไม่มีแอลกอฮอล์ผสม หรือกลุ่มยาทาสิวประเภท Benzoyl Peroxide ที่ทาแล้วล้างออกได้ โดยเลือกสูตรที่ตัวเลขเปอร์เซ็นต์ไม่สูง เพราะถ้าสูงมากเกินไปอาจไม่เหมาะสำหรับการใช้แต้มสิวหน้ากาก

แม้ต้องใส่หน้ากากอนามัย ก็ลดการเกิดสิวได้…ด้วยเคล็ด(ไม่)ลับนี้

งดแต่งหน้าบริเวณใต้หน้ากาก หรือแต่งแบบบางเบา เพื่อลดการอุดตัน
เลือกสบู่ที่อ่อนโยน ช่วยลดความมันแต่ผิวไม่แห้งตึง
เน้นบำรุงด้วยการเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เนื้อบางเบา แต่ไม่เข้มข้นมากเกินไปเพราะอาจทำให้รูขุมขนอุดตัน
หลีกเลี่ยงอาหารหวาน กลุ่มผลิตภัณฑ์นม ช็อกโกแลต เพราะส่งผลต่อระดับอินซูลินที่สูงขึ้น ต่อมไขมันทำงานหนัก ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้

ปัญหาผิวจากการสวมใส่หน้ากากอนามัย ไม่ใช่แค่ทำให้เกิดสิว แต่อุณหภูมิที่สูงภายใต้หน้ากากยังทำให้เกิดปัญหารูขุมขนกว้าง ผดผื่นคัน รวมถึงริ้วรอยจากการเสียดสี หากดูแลและรักษาปัญหาผิวด้วยตัวเองแล้วไม่ดีขึ้น การเข้ามาพบแพทย์เพื่อปรับแนวทางการรักษาก็อาจเป็นอีกทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

พญ. วัลลภา อัศวเบ็ญจาง

แพทย์สาขาตจวิทยา

ศูนย์ความงาม โรงพยาบาลพญาไท 2

เมื่อสิวหน้ากาก..ต่างจากสิวทั่วไป แล้วเราจะดูแลผิวหน้ายังไงดี