Normal Labour vs Cesarean Section PTP

<h2><span style="color: #00826a;">คลอดธรรมชาติ (Normal Labour)</span></h2>
<h2><span style="color: #00826a;">ประโยชน์ของคุณแม่</span></h2>
<ul>
<li>ฟื้นตัวหลังคลอดได้เร็วกว่าการผ่าคลอด</li>
<li>โอกาสเสียเลือดจากการคลอดน้อยกว่า</li>
<li>แผลมีขนาดเล็ก</li>
<li>พบอัตราการเกิดรกเกาะต่ำ และเกาะลึก ในครรภ์ต่อไปได้น้อย</li>
<li>ลดความเสี่ยงการเกิดผังผืดในอุ้งเชิงกราน</li>
</ul>
<p>&nbsp;</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><span style="color: #00826a;">ประโยชน์ของทารก</span></h2>
<ul>
<li>ทารกได้รับการบีบช่วงทรวงอก ทำให้ขับน้ำคร่ำออกจากปอดได้ดีกว่า</li>
<li>ทารกที่คลอดธรรมชาติ จะกลืนสารคัดหลั่งในช่องคลอดมารดา ซึ่งอุดมไปด้วยแบคทีเรียดี Probiotic ไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ทารก</li>
</ul>
<p>&nbsp;</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><span style="color: #00826a;">การดูแลหลังคลอดโดยวิธีทางธรรมชาติ</span></h2>
<ul>
<li>หลังคลอดอาจหน้ามืด เป็นลม ควรพักอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง ก่อนลุก นั่ง หรือเดิน</li>
<li>ดูแลทำความสะอาดแผลฝีเย็บ สามารถล้างทำความสะอาดได้ตามปกติ</li>
<li>การดูแลน้ำคาวปลา วันแรกๆ น้ำคาวปลาจะมีลักษณะเป็นเมือกสด แล้วเปลี่ยนเป็นเลือดเก่าๆ และค่อยๆจางลงเป็นน้ำคาวปลาใส และควรหมดไประยะเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ โดยหากหลัง 2 สัปดาห์ยังมีน้ำคาวปลาสีแดง ควรปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเกิดการอักเสบ หรือมีเศษรกตกค้างในมดลูกได้</li>
<li>อาจมีอาการปวดแผลฝีเย็บ จากการตัด และเย็บแผล</li>
<li>ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และผลไม้ที่มีกากใย เพื่อป้องกันอาการท้องผูก</li>
<li>ควรให้ลูกดูดนมเร็วที่สุด</li>
<li>งดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 6 สัปหาด์ หรือจนกว่าไม่มีน้ำคาวปลา</li>
<li>พบแพทย์เพื่อตรวจหลังคลอด 6 สัปดาห์ เพื่อเช็คมะเร็งปากมดลูก และวางแผนครอบครัว</li>
</ul>
<p>&nbsp;</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><span style="color: #00826a;">การผ่าคลอด (Cesarean Section)</span></h2>
<p>ปกติแล้วการผ่าคลอด ทำในกรณีที่มารดาไม่สามารถคลอดเอง หรือคลอดได้แต่อาจเป็นอันตรายต่อมารดา หรือทารก โดยคลอดทารกผ่านรอยผ่าที่หน้าท้องและผนังมดลูก ในช่วงอายุครรภ์ที่ทารดสามารถมีชีวิตรอดได้ กรณีเป็นการคลอดแบบฉุกเฉิน เพื่อให้ทารกในครรภ์รีบคลอดออกมาให้เร็วที่สุด เพราะอยู่ในภาวะวิกฤต เช่น สายสะดือย้อย ทารกอยู่ในวิกฤต มารดามีภาวะความดันโลหิตสูง ครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง ทารกมีการเจริญเติบโตช้า และน้ำคร่ำน้อยมาก หรือทารกมีส่วนนำ/ ท่านำเป็นท่าก้น และในผู้ที่ตั้งครรภ์แฝด ทารกตัวโต มีการผิดสัดส่วนระหว่างศีรษะทารกกับช่องเชิงกราน ภาวะรกเกาะต่ำ รกลอกตัวก่อนกำหนด มีการตกเลือดรุนแรงก่อนกำหนด มารดามีสิ่งกีดขวางกั้นช่องคลอด เช่น เนื้องอก มะเร็ง หรือโรคติดเชื้อ</p>
<p>&nbsp;</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><span style="color: #00826a;">กรณีใดบ้าง? ..ที่ต้องผ่าคลอด</span></h2>
<ul>
<li>ภาวะอุ้งเชิงกรานแคบ คือภาวะที่ขนาดอุ้งเชิงกรานของคุณแม่ไม่พอดีกับตัวเด็ก มักจะเกิดขึ้นกับคุณแม่ที่ตัวเล็ก แล้วเด็กมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าขนาดของอุ้งเชิงกราน ทำให้ไม่สามารถคลอดธรรมชาติได้</li>
<li>เด็กไม่กลับหัว ไม่เอาศีรษะลงเป็นส่วนนำ อาจจะก้นเป็นส่วนนำ หรืออาจจะนอนขวาง ทำให้ไม่สามารถคลอดธรรมชาติได้ เพราะจะทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บ</li>
<li>ทารกมีภาวะขาดออกซิเจนหรือหัวใจเต้นผิดปกติ</li>
<li>มีรกเกาะต่ำ ปกติแล้วรกจะเกาะอยู่ข้างบน เมื่อมีภาวะรกเกาะต่ำจะเคลื่อนตัวลงมาปิดปากมดลูกซึ่งโดยปกติควรจะต้องเปิดเพื่อให้เด็กออกมาได้ จึงทำให้คลอดตามธรรมชาติไม่ได้</li>
<li>มีเนื้องอกมาขัดขวางทางออก เป็นเนื้องอกบริเวณช่วงล่างของมดลูก ทำให้เป็นอุปสรรคขัดขวางต่อการคลอดทางช่องคลอด และทำให้เด็กออกไม่ได้</li>
<li>ครรภ์แฝด ไม่นิยมคลอดธรรมชาติ เนื่องจากเมื่ออีกคนคลอดออกมาแล้ว คนที่ยังไม่ออกมาจะกลิ้งและกลับหัวในระหว่างอยู่ในครรภ์ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อตัวเด็ก ควรผ่าตัดคลอดเพื่อความปลอดภัย</li>
</ul>
<p>&nbsp;</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><span style="color: #00826a;">การผ่าคลอดสามารถทำได้กี่ครั้งถึงไม่อันตราย?</span></h2>
<p>การผ่าคลอดสามารถทำได้หลายครั้ง แต่หากผ่าเกินครั้งที่ 3 ขึ้นไปคุณแม่จะเริ่มมีความเสี่ยงในการผ่าตัดมากขึ้น เพราะทุกครั้งที่มีการผ่าตัด จะมีพังผืดเป็นแผลเป็นเกิดขึ้นที่อวัยวะภายใน พังผืดนี้จะดึงรั้งอวัยวะภายในที่อยู่ใกล้กับมดลูกเข้ามาใกล้เมื่อมีการผ่าตัด ทำให้มีความเสี่ยงที่จะผ่าตัดโดนอวัยวะข้างเคียงมากขึ้น อวัยวะที่เสี่ยงต่อการผ่าตัด ได้แก่ กระเพาะปัสสาวะ และระบบทางเดินอาหาร</p>
<p>&nbsp;</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><span style="color: #00826a;">เมื่อผ่าคลอดท้องแรกแล้ว ท้องต่อไปต้องผ่าคลอดใช่หรือเปล่า?</span></h2>
<p>เมื่อคุณแม่ผ่าคลอดในครั้งแรกแล้ว เมื่อตั้งท้องครั้งต่อไปควรจะต้องผ่าคลอดอีกครั้ง เนื่องจากการผ่าคลอดทำให้คุณแม่มีแผลเป็นที่มดลูก เพราะฉะนั้นในท้องถัดไปเมื่อไหร่ที่มดลูกขยายตัวและบีบตัว จะทำให้ความยืดหยุ่นของมดลูกลดลง ทำให้มดลูกตึงเมื่อถูกยืดออก อาจทำให้มดลูกปริได้..มีโอกาสที่มดลูกจะแตกได้ประมาณ 1% การคลอดธรรมชาติจึงไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ที่เคยผ่าคลอดมาแล้ว</p>
<p>&nbsp;</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><span style="color: #00826a;">การดูแลหลังคลอดโดยวิธีผ่าคลอด</span></h2>
<ul>
<li>ต้องงดน้ำ และอาหารหลังผ่าคลอด ประมาณ 12-24 ชม. ในวันถัดมาสามารถดื่มน้ำ รับประทานอาหารเหลว และอาหารอ่อนได้ตามลำดับ พร้อมหยุดให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ หลังจากการนั้นจะสามารถรับประทานอาหารปกติได้</li>
<li>หลังผ่าคลอด 24 ชม.แรก จะได้รับยาแก้ปวด</li>
<li>สามารถถอดสายปัสสาวะออกได้ ประมาณ 12-24 ชม. แรก</li>
<li>สามารถให้ลูกดูดนมได้ในวันแรกหลังผ่าตัด</li>
<li>สามารถเปลี่ยนอิริยบถโดยการลุกนั่งเดินใกล้ๆ เนื่องจากการเปลี่ยนอิริยาบถได้เร็ว จะช่วยให้ลำไส้กลับมาทำงานได้เร็ว ทำให้ท้องไม่อืด ลดการเกิดพังผืดในช่องท้อง และป้องกันการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน</li>
<li>ไม่ให้แผลผ่าตัดถูกน้ำ ประมาณ 7 วัน หากเย็บแผลด้วยไหมละลายไม่ต้องตัดไหม หากเย็บด้วยไหมธรรมดา ให้ตัดไหมเมื่อครบ 7 วัน</li>
<li>สามารถกลับบ้านได้ ภายใน 3-4 วันหลังผ่าคลอด</li>
<li>การดูแลน้ำคาวปลาวันแรกๆ จะมีลักษณะเป็นเลือดสดในเมือก แล้วจะเปลี่ยนเป็นเลือดจางปนน้ำคาวปลา และควรหมดไปในระยะเวลาไม่เกิน 4-6 สัปดาห์ โดยหากหลัง 6 สัปดาห์แล้ว ยังมีน้ำคาวปลาสีแดง อาจมีการอักเสบ หรือมีเศษตกค้างในมดลูกได้ หรือหากมีอาการไข้ มีน้ำหรือเลือดออกจากแผลผ่าตัด ปวดแผลมากขึ้น หรือแผลบวมแดง หนอง ควรปรึกษาแพทย์</li>
<li>งดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 6 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะไม่มีน้ำคาวปลา</li>
<li>พบแพทย์เพื่อตรวจหลังคลอด 6 สัปดาห์ เพื่อเช็คมะเร็งปากมดลูก และวางแผนครอบครัว</li>
</ul>
<p><a href="https://www.phyathai.com/app/babydelivery/?utm_source=backtocampaign&#038;utm_medium=content_01&#038;utm_campaign=babyvaluehealth"><img loading="lazy" decoding="async" class="alignnone size-full wp-image-340691" src="https://pyt-storage.sgp1.digitaloceanspaces.com/wp-content/uploads/2024/10/05-KV-Value-health-care_Banner-Back-to-Campaign_%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81.jpg" alt="" width="2500" height="354" /></a></p>


คลอดธรรมชาติ (Normal Labour) vs การผ่าคลอด (Cesarean Section)

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

การคลอดธรรมชาติ VS การผ่าคลอด

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล