เมื่อกล่าวถึงการเกิดโรคและกว่าจะสามารถรักษาให้หายเป็นปกติ หรือดูแลให้อาการของโรคดีที่สุดนั้น ย่อมมีเส้นทางการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นไปตามความเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายในดุลพินิจของแพทย์ และการผ่าตัด คือ อีกหนึ่งวิธีในการรักษา แต่หลายครั้งเมื่อผู้ป่วยนึกว่าต้องได้รับการผ่าตัด เกิดบาดแผล ต้องรักษาตัวนาน ผลข้างเคียงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้จึงอาจนำมาซึ่งความกังวล และอาจมีความเครียดเข้ามาแทนที่

แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจึงทำให้ การผ่าตัดด้วย “กล้องขนาดเล็ก” ( Minimally Invasive Surgery) กำลังเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการผ่าตัดรักษาโรคที่ดีที่สุดในยุคนี้

โดยเฉพาะโรคที่เกิดใน “ช่องท้อง”เกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดรักษาโรค นิ่วในถุงน้ำดี ผ่าตัดลำไส้ใหญ่ ผ่าตัดรักษาไส้เลื่อน ผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ ผ่าตัดมะเร็งกระเพาะอาหาร ล้วนเหมาะกับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดผ่านกล้องที่ให้ผลดีต่อผู้ป่วย เพราะมีแผลขนาดเล็ก เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดแผลใหญ่ แบบดั้งเดิมได้เกือบทุกโรค โดยวิธีการเปิดแผลเล็ก ๆ บนผนังหน้าท้องเพียง 5-10 มิลลิเมตร เพื่อสอดเครื่องมือผ่าตัดเข้าไปในช่องท้องประมาณ 1-4 แผล สามารถควบคุมเครื่องมือผ่าตัดโดยการจี้ด้วยไฟฟ้า เลเซอร์ หรือคลื่นความถี่สูง ทำการตัด เจาะดูดของเหลว หรือผูกจากภายนอกช่องท้องได้ โดยแพทย์จะเห็นภาพการผ่าตัดจากหน้าจอภาพ

“พญ.นรสรา วิทยาพิพัฒน์” ศัลยแพทย์ทั่วไป ศูนย์ศัลยกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง (ASIT) รพ.พญาไท 3 กล่าวว่า สำหรับโรคที่เกิดภายในช่องท้อง ปัจจุบันสามารถผ่าตัดผ่านกล้องเพื่อรักษาโรคได้เกือบทุกชนิด เนื่องจากการผ่าตัดสมัยใหม่ โดยการใช้กล้องและเครื่องมือขนาดเล็ก เจาะผ่านผนังหน้าท้องเพื่อทำการผ่าตัด ทำให้ผู้ป่วยเจ็บตัวน้อย แผลมีขนาดเล็กและร่างกายยังฟื้นตัวได้เร็ว

ในสมัยก่อนการผ่าตัดรักษาโรคในช่องท้อง จะเป็นแบบเปิดหน้าท้องทุกโรค แต่ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา พัฒนาการของวิธีการผ่าตัดได้เปลี่ยนแปลงไป โดนหันมาเริ่มผ่าตัดผ่านกล้องกันมากขึ้น ซึ่งโรงพยาบาลพญาไท 3 ได้พยายามใช้วิธีการผ่าตัดผ่านกล้องรักษาโรคในช่องท้องมากขึ้น เพราะผลดีที่แผลเล็ก ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว และในขณะที่แพทย์ทำการส่องกล้อง ทำให้แพทย์เห็นอวัยวะภายในได้ดีกว่าอีกด้วย

พญ. นรสรา กล่าวว่า โรงพยาบาลพญาไท 3 จะเลือกใช้การผ่าตัดแบบผ่านกล้องรักษาโรคในช่องท้องมาเป็นส่วนใหญ่ โดยผู้ป่วยที่ต้องใช้วิธีการผ่าตัดรักษาแบบเปิดหน้าท้อง แพทย์จะเลือกใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีเลือดออกมาก แผลเกิดการอักเสบอย่างมากจนไม่สามารถใช้วิธีการผ่าตัดผ่านกล้องเข้าไปได้ โดยแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสม จากโรคและผู้ป่วยแต่ละรายเป็นสำคัญ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษา ทั้งนี้ในปัจจุบันผู้ป่วยมาใช้บริการผ่าตัดรักษาโรคช่องท้องด้วยวิธีผ่านกล้องประมาณ 80 % ของโรคในช่องท้อง และบางโรคอย่างนิ่วในถุงน้ำดี จะผ่าตัดรักษาผ่านกล้องร้อยเปอร์เซ็นต์

ปัจจุบันโรคที่เราทำการผ่าตัดโดยการผ่านกล้องได้ทั้งหมดอันดับแรกจะเป็นการผ่าตัดโรคนิ่วในถุงน้ำดี รองลงมา ผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ไส้เลื่อนอักเสบ และมะเร็งในกระเพาะอาหาร เป็นต้น
ด้วยความพร้อมในทุกๆ ด้าน และประสบการณ์ที่ยาวนานของ โรงพยาบาลพญาไท 3 พร้อมให้บริการ และส่งเสริมศักยภาพการใช้ชีวิตของผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติเร็วขึ้น

พญ. นรสรา วิทยาพิพัฒน์
ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดผ่านกล้อง
ศูนย์ศัลยกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง ( ASIT ) โรงพยาบาลพญาไท 3

แผลเล็ก-เจ็บน้อย ทางเลือกใหม่...ผ่าตัดผ่านกล้อง โรคช่องท้อง