ใครก็อยากผอมเพรียว ลุคเฮลท์ตี้ มีสุขภาพดี จนใครก็เหลียวหลัง แต่จะทำอย่างไรเมื่อไลฟ์สไตล์ยังติดแหงกอยู่กับอาหารฟาสฟู้ด ชอบเล่นโซเชียลตอนดึกๆ แถมยังมีมื้อดึกตบท้ายก่อนเข้านอนทุกครั้ง ไลฟ์สไตล์เหล่านี้เองที่เป็นตัวการทำให้เสียสุขภาพได้ ลองหันมาปรับไลฟ์สไตล์ง่ายๆ ให้เป้าหมายการมีสุขภาพที่ดีไม่ไกลเกินเอื้อมกันดีกว่า

รู้มั้ยแค่ปรับ 4 ไลฟ์สไตล์นี้ ร่างกายจะสตรองมากขึ้น

อาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อน ภาวะจิตใจ ไลฟ์สไตล์ประจำวันเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนให้ชีวิตคุณดูดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ แค่ทำตามคำแนะนำนี้เลย

ไลฟ์สไตล์ 1: เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์

เหตุผลที่ควรเลือกทานอาหารอย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่ใช่แค่ทานเพราะอยาก หรือแค่อิ่มอร่อยเท่านั้น ร่างกายยังคงต้องการสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างครบถ้วน ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เมนูหมุนเวียนกันไปให้หลากหลาย และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะทานเมนูเดิมซ้ำๆ เพราะมีส่วนทำให้ร่างกายขาดสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็น
โปรดจำว่า “ของอร่อยที่ควรหลีกเลี่ยง คือ ของทอด ของมัน ของหวาน” เมนูเหล่านี้มีแต่จะเพิ่มน้ำหนักตัว ก่อนทานควรหักห้ามใจและหันมาเลือกทานอาหารที่ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ซ่อนอยู่ในผักผลไม้ มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี เช่น ผักใบเขียวจัดหรือสีเหลืองส้ม เห็ดต่างๆ และแร่ธาตุซีลีเนียมหรือสังกะสี ซึ่งพบในเนื้อสัตว์ อาหารทะเล นม หรือถั่ว เป็นต้น

ไลฟ์สไตล์ที่ 2: ออกกำลังกายให้เหมาะสม

การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น ส่งผลให้เม็ดเลือดขาวในเนื้อเยื่อต่างๆ แข็งแรงและมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเชื้อโรค นอกจากนี้หลังออกกำลังกายร่างกายยังหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินที่ดีต่อร่างกาย มารู้จักการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีทั้ง 3 ระดับที่เป็นตัวช่วยให้เราเลือกการออกกำลังกายเหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้

การออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ (Cardio) เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ที่ร่างกายได้เคลื่อนไหวต่อเนื่องนานกว่า 30 นาทีจนเกิดการเผาผลาญพลังงาน เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักเนื่องจากจะช่วยเบิร์นไขมันส่วนเกิน…นั่นหมายความว่า พุงของเราจะยุบได้ต้องเบิร์นอย่างต่ำประมาณ 30 นาทีเลยนะ
การออกกำลังกายแบบยืดหยุ่น (Flexibility Exercises) เป็นการออกกำลังกายที่ทำให้เกิดการยืดหยุ่นบริเวณข้อต่อ เช่น ไทเก็ก โยคะ ไคชิ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาข้อต่อและระบบไหลเวียนโลหิต
การออกกำลังกายแบบสร้างกล้ามเนื้อ เป็นการออกกำลังการเฉพาะส่วนเพื่อสร้างกล้ามเนื้อมัสเซิลหรือกล้ามเนื้อมัดเล็ก การออกกำลังกายชนิดนี้จะแบ่งออกเป็นเซ็ทละ 15 นาที เนื่องจากการออกกำลังซ้ำๆ แบบเดิมในช่วง 0-15 นาทีแรก จะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อไลโคเจน นิยมในกลุ่มที่ชอบยกเวท เพาะกาย และเป็นเทรนด์เพาะกล้ามสุดฮิตของผู้ชายยุคนี้

ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหักโหมติดกันทุกวัน ควรเว้นวรรคให้ร่างกายได้พักบ้าง เพราะทุกครั้งที่เสียพลังงานจากการออกกำลังกาย ร่างกายต้องใช้เวลาสร้างฮอร์โมนชนิดดีขึ้นมาทดแทน ถ้าออกกำลังกายทุกวันร่างกายย่อมสูญเสียพลังงานจนไม่มีเวลาชดเชย เหมือนที่บางคนออกกำลังกายหนักหน่วงจนรู้สึกไม่สบายตัว และเหนื่อยล้า แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที หรือในหนึ่งสัปดาห์ควรเว้นวรรค 1-2 วันกำลังดี

ไลฟ์สไตล์ที่ 3 พักผ่อนอย่างเพียงพอ

การเข้านอนเร็วและพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมน DHEA ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฮอร์โมนชนิดนี้เป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนเพศหญิงและเพศชาย อีกทั้งยังทำหน้าที่ต้านความเครียดและช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน แนวทางการพักผ่อนอย่างเหมาะสม ได้แก่

ควรนอนหลับให้สนิทอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนได้เต็มที่
มีคำแนะนำให้เราเข้านอนก่อน 5 ทุ่ม เนื่องจากช่วงเวลา 11.00 – 02.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การนอนหลับเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าหลับสนิทได้จะทำให้ร่างกายผลิต Growth ฮอร์โมนได้มากขึ้น เจ้าตัวนี้เองที่ช่วยในการเจริญเติบโตได้แข็งแรง และมีความเป็นหนุ่มสาวมากขึ้น
หมั่นสังเกตความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับของตนเอง หากพบปัญหาควรรีบปรึกษาแพทย์
ไม่ควรรับประทานอาหารก่อนนอน หรือภายใน 3-4 ชั่วโมงก่อนนอน เพราะนอกจากจะทำให้เกิดกรดไหลย้อนในกระเพาะอาหารแล้ว จะทำให้ร่างกายไม่หลั่ง Growth เนื่องจากถูกแทนที่ด้วยอินซูลิน ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกันเข้าไปแล้ว

ไลฟ์สไตล์ที่ 4 ดูแลสภาวะจิตใจให้เป็นปกติ ไม่เครียดจัดจนเกินไป

หากอยากมีสุขภาพแข็งแรง นอกจากดูแลร่างกายแล้วยังต้องดูแลจิตใจควบคู่กันไปด้วย แนวทางการดูแลสภาวะจิตใจอย่างเหมาะสม ได้แก่

หาวิธีคลายเครียด เช่น ทำงานอดิเรก ท่องเที่ยว สังสรรค์
ฝึกผ่อนคลายจิตใจด้วยการกำหนดลมหายใจหรือนั่งสมาธิ
พูดคุยปรึกษาคนใกล้ชิดเมื่อมีปัญหาหนักใจ

พญ. กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี
ผู้อำนวยการพรีเมียร์ไลฟ์เซ็นเตอร์
ศูนย์พรีเมียร์ไลฟ์เซ็นเตอร์ โรงพยาบาลพญาไท 2

แค่ปรับไลฟ์สไตล์...ก็เปลี่ยนสุขภาพให้แข็งแรง