ลมหนาวมาแล้ว! อุณหภูมิที่ลดลงทั่วประเทศไทยอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันและเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบันพบผู้ป่วย “โรคปอดบวม” มากขึ้น และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี

ลักษณะอาการ..ที่สังเกตได้ว่า(อาจ)เสี่ยง “โรคปอดบวม

โรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ผู้ป่วยจะมีอาการไอ มีเสมหะ เหนื่อยหอบ คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย หายใจลำบาก มีไข้สูง ผู้สูงอายุอาจมีอาการซึมและมีไข้ หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ ระบบหายใจล้มเหลว ติดเชื้อในกระแสเลือดจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

“กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” วิธีป้องกันโรคปอดบวมที่ใครก็ทำได้

หากไม่อยากเป็นโรคปอดบวม การดูแลสุขภาพในสภาพอากาศเย็นๆ ถือเป็นเรื่องจำเป็น เริ่มจากการสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำให้ร่างกายอบอุ่น และอยู่ในสถานที่ที่ป้องกันลมหนาวได้ อีกหนึ่งวิธีที่แนะนำคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะได้ทั้งความอบอุ่นและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ที่สำคัญอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีผู้คนหนาแน่น ทำร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย

โรคปอดบวม อันตราย…แต่รักษาได้นะ!

หากปอดติดเชื้อจากแบคทีเรียจะต้องทานยาฆ่าเชื้อหรือฉีดยา โดยทั่วไปอาการจะดีขึ้นภายใน 2 – 3 วัน แต่หากปอดปวมเกิดจากไวรัส เพียงแค่พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และรักษาตามลักษณะอาการ แต่ในรายของเด็กและผู้สูงอายุนั้น ควรรีบพบแพทย์เนื่องจากอาจเกิดอาการแทรกซ้อนได้

ถ้าไม่อยากให้ “โรคปอดบวม” มากวนใจ การฉีดวัคซีนไอพีดีก็เป็นอีกวิธีที่สามารถป้องกันโรคปอดบวมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ ศูนย์วัคซีน โรงพยาบาลพญาไท 2 พร้อมบริการฉีดวัคซีนไอพีดี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้สูงอายุ หน้าหนาวนี้อย่าลืมดูแลปอดของคุณและคนที่คุณรัก

หนาวนี้ มาฟิตปอด..ป้องกัน “โรคปอดบวม” กันเถอะ!