ลูกแค่เศร้า หรือเป็นโรคซึมเศร้ากันแน่

<p>โรคซึมเศร้า (depression) เป็นโรคทางอารมณ์ชนิดหนึ่ง โดยผู้ป่วยมักจะมีอารมณ์เศร้าติดต่อกันเกือบทั้งวัน และเป็นติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์ขึ้นไป โรคนี้เกิดได้ในทุกเพศทุกวัย คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ที่มีความเป็นห่วงลูกจึงอาจกังวลว่า เมื่อลูกโตขึ้นจนเริ่มเข้าสู่วัยเรียนจะต้องมีการปรับตัวเข้าสู่สังคมในโรงเรียน การใช้ชีวิตของลูกจะเป็นอย่างไร และเมื่อพบว่าลูกมีความเครียดสะสม เริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เริ่มเก็บตัว ไม่ค่อยพูด เริ่มไม่อยากไปโรงเรียน จะเป็นเพราะว่าเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก</p>
<h2><span style="color: #00826a;">อะไรเป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้าในเด็ก</span></h2>
<ul>
<li>พันธุกรรม ถ้ามีประวัติมีผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในครอบครัว ก็จะมีโอกาสป่วยด้วยโรคซึมเศร้ามากกว่าเด็กทั่วไป</li>
<li>การที่เด็กได้รับยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด ยาลดความดัน สารเสพติดต่างๆ</li>
<li>โรคบางชนิด เช่น โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง</li>
<li>สภาพแวดล้อมหรือความเครียด ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาในครอบครัว การทะเลาะกับแฟนกับเพื่อน ผลการเรียนตกต่ำ ถูกเพื่อนกลั่นแกล้งเสมอๆ หรือรู้สึกไม่ชอบ กลัว กังวลกับบุคคลรอบข้าง หรือเด็กขาดความมั่นใจในตนเอง กลัวการแข่งขัน</li>
</ul>
<h2><span style="color: #00826a;">อาการแบบไหน…ที่สงสัยได้ว่าลูกอาจเป็นโรคซึมเศร้า</span></h2>
<ul>
<li>มีอารมณ์ที่ซึมเศร้าลง เบื่อหน่ายมากขึ้น หรือบางรายอาจมีอารมณ์หงุดหงิด</li>
<li>เริ่มเก็บตัว ไม่ค่อยพูดเหมือนก่อน</li>
<li>ไม่มีความสุขความเพลิดเพลินเมื่อทำกิจกรรมที่ชอบ หรือไม่ชอบทำกิจกรรมที่เคยชอบทำมาก่อน เช่น เคยชอบวาดรูป แต่ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว</li>
<li>ไม่อยากกินอาหาร น้ำหนักลดลง หรือในบางรายก็กินอาหารมากเกินไป</li>
<li>นอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับๆ ตื่นๆ หรือตื่นเร็วกว่าปกติ ในขณะที่บางรายก็นอนทั้งวัน</li>
<li>เศร้า เฉื่อยชา ไม่อยากทำอะไรเลย</li>
<li>ไม่มีสมาธิในการเรียน ความจำแย่ลง</li>
<li>รู้สึกผิด โทษตัวเอง รู้สึกไร้ค่า</li>
<li>แอบร้องไห้คนเดียว</li>
<li>ใครทำอะไรให้ ก็ผิดหูผิดตาไปซะหมด</li>
<li>อยากฆ่าตัวตาย หรือบ่นว่าอยากตาย</li>
</ul>
<p>อย่างไรก็ตาม การมีอาการดังกล่าวก็ใช่ว่าลูกจะเป็นโรคซึมเศร้าเสมอไป ดังนั้นหากผู้ปกครองสงสัย ก็ควรพาลูกไปปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางเสียก่อน เพื่อการวินิจฉัยว่าเป็นอะไรกันแน่ และใช้เป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ จะได้ทำการรักษาให้ถูกจุดต่อไป</p>
<h2><span style="color: #00826a;">วิธีรับมือเมื่อลูกเป็นโรคซึมเศร้า</span><strong><span style="color: #00826a;"><br />
</span></strong></h2>
<p>หากลูกได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคซึมเศร้าแน่นอนแล้ว การดูแลเอาใจใส่จากผู้ปกครองก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การรักษาด้วยการกินยาและการรับคำปรึกษาจากแพทย์ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองควรปฏิบัติตัวดังนี้</p>
<ul>
<li>หมั่นพูดคุยกับลูก สังเกตพฤติกรรม สอบถามความรู้สึก ความสุขของลูก สารทุกข์สุกดิบต่างๆ</li>
<li>ทำกิจกรรมร่วมกับลูก สร้างบรรยากาศใหม่ๆ กิจกรรมใหม่ๆ เพื่อให้เด็กมีความสุขเพิ่มขึ้น และต้องไม่เป็นกิจกรรมที่เด็กไม่ชอบ เพราะจะทำให้อาการแย่ลงไปกว่าเดิมได้</li>
<li>พูดคุยกับลูกโดยใช้เหตุและผล ไม่ใช้อารมณ์ ให้ความเอาใจใส่และความอบอุ่นแก่ลูกอยู่เสมอ</li>
<li>เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่าปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่เร่งรัด สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียด</li>
<li>คอยสำรวจพฤติกรรมหรือขอความช่วยเหลือจากคุณครูให้ช่วยสอดส่องพฤติกรรมของลูก</li>
<li>เปิดเผยพูดคุยกับคุณครูเพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาของลูกที่พบที่บ้านและโรงเรียน เพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด</li>
<li>ควรปรึกษาจิตแพทย์เป็นประจำ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องและต่อเนื่องต่อไป</li>
</ul>
<p>&nbsp;</p>
<p style="text-align: right;"><span style="color: #00826a;"><strong>นพ. รัตนภูมิ วัฒนปัญญาสกุล</strong></span><br />
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์<br />
ศูนย์สุขภาพเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์</p>


โรคซึมเศร้า (depression) เป็นโรคทางอารมณ์ชนิดหนึ่ง ที่ผู้ปกครองสามารถสังเกตอาการของลูกในเบื้องต้นได้ และหากมีความสงสัยก็ควรพาลูกไปปรึกษากับแพทย์เฉพาะทาง เพื่อการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าจริงหรือไม่ จ

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

ลูกแค่เศร้า หรือเป็นโรคซึมเศร้ากันแน่

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล