ทำงานหนัก นอนน้อย พฤติกรรมทำเสี่ยง 'งูสวัด'

<p>ปัจจุบัน กลุ่มวัยรุ่นวัยทำงานที่กำลังอยู่ในช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวมักจะทำงานหนัก บางคนทำงานมากกว่า 1 อาชีพ ต้องใช้เวลาเยอะ มีความเครียดโดยไม่รู้ตัว ที่สำคัญการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอนอนน้อย อดหลับอดนอน นอนไม่เป็นเวลา ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคงูสวัด และความเชื่อที่ว่าโรคนี้จะเกิดเฉพาะกับกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น ไม่เป็นความความจริงแต่อย่างใด</p>
<h2><span style="color: #00826a;">งูสวัดเกิดจากสาเหตุใด</span><strong><span style="color: #00826a;"><br />
</span></strong></h2>
<p>โรคงูสวัด เกิดจากไวรัสชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ หรือไวรัสเฮอร์ปีส์ ซึ่งเป็นไวรัสชนิดหนึ่งในกลุ่มไวรัสเริม เชื้อนี้หากเป็นในเด็กจะทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส แต่หลังจากที่หายจากโรคอีสุกอีใส เชื้อไวรัสจะยังคงซ่อนเร้นอยู่ในร่างกาย และเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายอ่อนแอลง หรือภูมิคุ้มกันต่ำลง อาการของโรคจะกำเริบทำให้เกิดโรคงูสวัดได้</p>
<h2><span style="color: #00826a;">อาการงูสวัด โรคที่เกิดได้กับคนทุกช่วงวัย ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุ</span></h2>
<p>อาการแสดงออกของไวรัส หรือโรคงูสวัด คือ</p>
<ul>
<li>มีตุ่มใสฐานสีแดง แต่จะไม่เหมือนกับอีสุกอีใสที่เกิดขึ้นทั่วร่างกาย โดยมีลักษณะเป็นกลุ่มหรือแถว เป็นซีกเดียวของร่างกาย หากงูสวัดขึ้นในเส้นประสาทที่อยู่อวัยวะที่อันตราย เช่น เส้นประสาทตา อาจจะทำให้ตาบอดได้ หรือสามารถทำให้เยื้อหุ้มสมองอักเสบได้ ขึ้นอยู่กับว่างูสวัดขึ้นตรงไหน</li>
<li>มีอาการแสบร้อน</li>
<li>ปวดเมื่อยตามร่างกาย</li>
</ul>
<h2><span style="color: #00826a;">ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงของโรคงูสวัด</span></h2>
<ul>
<li>ผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี</li>
<li>ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย</li>
<li>ใช้ยาที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง เช่น สเตียรอยด์ ยาบรรเทาอาการอักเสบ</li>
<li>มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคเอชไอวี ทำให้มีความเสี่ยงกระตุ้นเชื่อไวรัสออกจากปมก่อนอายุ 60 ปี</li>
</ul>
<h2><span style="color: #00826a;">วิธีการรักษาโรคงูสวัด</span></h2>
<p>ใช้ยาต้านไวรัส ลดภาวะแทรกซ้อนปมประสาทที่จะเกิดขึ้น โดยมี 2 แบบ</p>
<ul>
<li>แบบรับประทานยาต้านไวรัส ใช้กับผู้ที่โรคไม่รุนแรง จะเน้นการรักษาแบบรับประทานแค่ 7วัน</li>
<li>แบบฉีดยาต้านไวรัส ใช้กับผู้ที่โรครุนแรง ขึ้นที่เยื่อหุ้มสมอง ขึ้นตา ขึ้นหู หรือมีปริมาณเชื้อเยอะมาก</li>
</ul>
<h2><span style="color: #00826a;">วิธีป้องกันงูสวัด</span></h2>
<ul>
<li>ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง</li>
<li>พักผ่อนให้เพียงพอ</li>
<li>ลดการใช้ยาที่ลดภูมิคุ้มกัน</li>
<li>สำหรับกลุ่มคนอายุ 60 ขึ้นไป การฉีดวัคซีนงูสวัด เข็มเดียว ช่วยลดความเสี่ยงป้องกันได้ตลอดชีวิต ส่วนกลุ่มวัยรุ่น สามารถฉีดได้ แต่ไม่แนะนำให้ฉีด ซึ่ง พญ.เมธินี สุทธิไวยกิจ อายุรแพทย์ประจำโรงพยาบาลพญาไท 2 แนะนำว่า ทุกคนไม่ว่าวัยใด ควรหมั่นสังเกตตนเอง หากพบว่ามีอาการตุ่มใส ฐานแดง แสบร้อน ควรรีบมาพบแพทย์ทันที เพื่อทำการรักษาภายใน 72 ชั่วโมง เพราะหากรักษาเร็ว จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนได้ดีกว่า</li>
</ul>


ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปของคนในวัยทำงานหรือวัยสร้างตัว ที่เน้นทำงานหนัก เที่ยวหนัก เดินทางบ่อย ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ภูมิคุ้มกันต่ำลงได้ง่าย ซึ่งเปิดโอกาสให้เชื้อไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ ที่อยู่ในตัวถูกกระตุ้นจนกลายเป็น 'งูสวัด' ได้

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

ทำงานหนัก นอนน้อย พฤติกรรมทำเสี่ยง 'งูสวัด'

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล