รู้ไหม? ใน 10 ปีที่ผ่านมาคนไทยเป็นโรคภูมิแพ้ เพิ่มมากขึ้น 3-4 เท่า โรคภูมิแพ้จึงเป็นอีกโรคที่เรียกได้ว่ายอดฮิตในปัจจุบัน ซึ่งไม่ใช่แค่ภูมิแพ้อากาศ แพ้ฝุ่น แพ้ขนสัตว์ ที่ส่งผลต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ภูมิแพ้ในที่นี้ยังรวมไปถึงแพ้อาหารที่อาจอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว

ภูมิแพ้อาหาร กับ ภูมิแพ้อาหารแฝง ต่างกันอย่างไร

ภูมิแพ้อาหาร (Food Allergy) ส่วนใหญ่จะแสดงอาการแบบเฉียบพลัน อาจเกิดแบบทันทีหรือภายใน 2-4 ชั่วโมงหลังได้รับสารประกอบที่ทำให้แพ้ คือเมื่อเราทานอาหารสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไป ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะแสดงปฏิกิริยาต่อต้านออกมาในรูปแบบของผื่นลมพิษ บวมที่บริเวณตาหรือปาก แน่นหน้าอก หายใจลำบาก จนอาจถึงขั้นหมดสติ และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ภูมิแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance) มักจะไม่แสดงอาการในทันทีทันใด แต่จะแสดงอาการก็ต่อเมื่อมีการทานอาหารชนิดนั้นในปริมาณมาก หรือทานบ่อยๆ ซ้ำๆ และอาการส่วนใหญ่มักเกิดหลังทานอาหารแล้วอย่างน้อย 48 ชั่วโมง โดยอาการก็จะไม่ได้รุนแรงเพียงแต่ก่อให้เกิดความรำคาญเล็กน้อย จนทำให้หลายคนไม่ทราบว่าตัวเองแพ้อาหารสิ่งนั้น

ภูมิแพ้อาหารแฝง เกิดจากอะไร
หลักๆ ก็คือเกิดจากการที่ร่างกายขาดเอนไซม์ในการย่อยอาหารชนิดนั้น ทำให้การย่อยอาหารไม่สมบูรณ์ ร่างกายดูดซึมไปใช้ไม่ดี โมเลกุลจากอาหารจึงสามารถหลุดลอดเข้าไปในกระแสเลือด ทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน โดยการสร้างอิมมูโนโกบูลินชนิด IgG (Immunoglobulin G) ออกมาต่อต้านอาหารชนิดนั้น ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันกับภาวะลำไส้รั่วซึม (Leaky Gut Syndrome) ที่อาหารที่เราทานเข้าไปนั้นทำปฏิกิริยากับลำไส้ ทำให้เซลล์เยื่อบุผนังลำไส้เกิดการอักเสบจนสารพิษ และโมเลกุลต่างๆ สามารถเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด จนเกิดการอักเสบแบบค่อยเป็นค่อยไป ก่อนที่จะแสดงอาการต่างๆ ตามมา พูดง่ายๆ ก็คือ ภูมิแพ้อาหารแฝงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะลำไส้รั่วซึมได้ และในทางกลับกันภาวะลำไส้รั่วซึมก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการแพ้อาหารแบบแฝงได้นั่นเอง

แพ้แบบแฝงๆ แล้วจะส่งผลต่อร่างกายอย่างไร

ปวดศีรษะเรื้อรัง ไมเกรน
ภาวะสมาธิสั้น
คัดจมูก น้ำมูกไหล เรื้อรัง
ผื่นลมพิษเรื้อรังไม่ทราบสาเหตุ
สิวเรื้อรัง
ท้องเสีย ลำไส้ระคายเคือง (IBS) ลำไส้อักเสบ (Crohn’s disease)
ท้องผูก จุกเสียดแน่นท้อง
น้ำหนักขึ้นง่าย
ปวดตามกล้ามเนื้อ
กระตุ้นให้เกิดโรคแพ้ภูมิตนเอง (SLE)
กระตุ้นให้เกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

ไม่ต้องใช้ยา แต่รักษาภูมิแพ้อาหารแฝงได้โดยปรับการกิน
ในการรักษาภูมิแพ้อาหารแฝงไม่จำเป็นต้องใช้ยาแก้แพ้ แต่เพียงแค่ปรับพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่แพ้ประมาณ 6 เดือนก็จะสามารถกลับมาทานอาหารชนิดนั้นได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายอีก แต่ในทางกลับกันหากกลับมาทานซ้ำๆ หรือทานมากจนเกินไป ก็อาจทำให้ร่างกายกลับมามีปฏิกิริยาต่อต้านอาหารชนิดนั้น ทำให้กลับมาเป็นภูมิแพ้อาหารแบบแฝงอีกได้

ภูมิแพ้อาหารแฝง แค่ตรวจเลือดก็รู้ได้
อยากรู้ว่าแพ้ไหม รู้ทันภูมิแพ้อาหารแฝงได้ง่ายๆ แค่ตรวจเลือด แล้วนำส่งห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจดูปฏิกิริยาต่ออาหารแต่ละชนิด ด้วย Immunoglobulin G4 ก็คือแค่แต่งตัวออกมาโรงพยาบาล ไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร เจาะเลือด แล้วรอผลประมาณ 1 สัปดาห์ ก็ได้รู้แล้วว่าอาหารชนิดไหนที่ร่างกายไม่โอเค ตรวจครั้งเดียวรู้ผลได้กว่า 200 ชนิดเลยนะ ไม่ต้องเป็นภูมิแพ้อยู่แล้วก็ตรวจได้ อยากดูแลสุขภาพอย่างเจาะลึกยิ่งน่าตรวจ

ดูรายละเอียด แพ็กเกจตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง เพิ่มเติมได้เลย

[base64_img]

ภูมิแพ้อาหารแฝง กับ แพ้อาหาร เรื่องแพ้ๆ ที่เหมือนแต่แตกต่าง