ภาวะโลหิตจาง (Anemia) แม้ไม่ใช่โรค แต่สร้างปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้

<h2><span style="color: #00826a;">ภาวะโลหิตจางคืออะไร ?</span></h2>
<p><span style="color: #00826e;"><strong>ภาวะโลหิตจาง</strong></span> หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า <span style="color: #00826e;"><strong>ภาวะซีด (Anemia)</strong></span> คือภาวะที่คนๆ หนึ่งมีความเข้มข้นของเลือดแดงต่ำกว่าปกติ โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดเกณฑ์วินิจฉัยภาวะโลหิตจางจากปริมาณฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ในเลือดเป็นตัวเลข ดังนี้</p>
<ul>
<li>ต่ำกว่า 12 g/dL ในผู้หญิง</li>
<li>ต่ำกว่า 13 g/dL ในผู้ชาย</li>
<li>ต่ำกว่า 11 g/dL ในผู้หญิงตั้งครรภ์</li>
</ul>
<p>ทั้งนี้ภาวะโลหิตจางไม่ถือเป็นโรค แต่เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้จากหลายโรค หลายภาวะ เนื่องจากในร่างกายของเรามีปัจจัยหลายอย่างในการช่วยกันควบคุมการสร้างเม็ดเลือดแดงให้ออกมาในระบบหมุนเวียนโลหิตในปริมาณที่สมดุลเพียงพอ</p>
<p>&nbsp;</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><span style="color: #00826a;">ภาวะโลหิตจาง&#8230;อาการเป็นอย่างไร<br />
เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีภาวะโลหิตจางหรือยัง ?</span></h2>
<p>โดยปกติแล้วในร่างกายของคนเรา จะมีฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงที่เป็นตัวนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ในผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจางจึงมีอาการผิดปกติจากการที่เนื้อเยื่อต่างๆ ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ อาการส่วนมากคือ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อยเวลาออกแรง วูบ หน้ามืด เวียนศีรษะ ง่วงนอนมากกว่าปกติ หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น เจ็บหน้าอก เล็บเปราะง่าย ผมร่วง ผิวแห้ง ตัวซีด เป็นต้น</p>
<p>&nbsp;</p>
<p>ถ้าโลหิตจางมากๆ คือระดับฮีโมโกลบินต่ำกว่า 5 g/dL อาจจะกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจวาย (Heart failure) ได้ เนื่องจากหัวใจจะทำงานหนักขึ้นในการปั๊มเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย จนสุดท้ายหัวใจทำงานไม่ไหว ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมปอดตามมาได้ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรง ทั้งนี้ขึ้นกับความเฉียบพลันในการเกิดภาวะโลหิตจางด้วย ในผู้ป่วยที่เกิดภาวะโลหิตจางอย่างเฉียบพลัน เช่น มีการสูญเสียเลือดในปริมาณมากในเวลาอันสั้น จะมีอาการชัดเจนและรุนแรงกว่าคนที่มีภาวะโลหิตจางเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานานๆ เนื่องจากในกลุ่มที่เกิดแบบเรื้อรัง ร่างกายจะปรับสภาพจนทำให้ผู้ป่วยไม่ทราบว่าตนมีภาวะโลหิตจางอยู่</p>
<p>&nbsp;</p>
<p>ผู้ป่วยหลายคนตรวจเจอภาวะโลหิตจางจากการตรวจสุขภาพประจำปี โดยที่ไม่มีอาการแสดงมาก่อน การยืนยันหรือสรุปการวินิจฉัยจำเป็นต้องมีการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (complete blood count, CBC) ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องงดน้ำงดอาหารก่อนการเจาะเลือด</p>
<p>&nbsp;</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><span style="color: #00826a;">สาเหตุของภาวะโลหิตจาง</span></h2>
<p>สาเหตุของภาวะโลหิตจางแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่</p>
<ol>
<li>การสร้างเม็ดเลือดแดงลดลง เช่น</li>
</ol>
<ul>
<li>โรคไขกระดูกผิดปกติ</li>
<li>โรคขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง ได้แก่ ธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 กรดโฟลิก</li>
<li>โรคไตวายเรื้อรัง ทำให้ขาดฮอร์โมนที่เป็นตัวกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง</li>
<li>โรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคมะเร็ง โรคในระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น</li>
</ul>
<ol start="2">
<li>การทำลายเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ เช่น</li>
</ol>
<ul>
<li>โรคธาลัสซีเมีย</li>
<li>โรคขาดเอนไซม์ G6PD</li>
<li>โรคเม็ดเลือดแดงแตกง่ายจากภูมิคุ้มกันตนเอง</li>
</ul>
<ol start="3">
<li>การสูญเสียเลือด เช่น</li>
</ol>
<ul>
<li>การเสียเลือดในทางเดินอาหาร</li>
<li>การเสียเลือดทางประจำเดือน</li>
<li>การเกิดอุบัติเหตุ</li>
</ul>
<p>ทั้งนี้ ในการตรวจหาสาเหตุ ผู้ป่วยจำเป็นต้องพบแพทย์ เพื่อซักประวัติ และตรวจร่างกายโดยละเอียด รวมทั้งอาจมีการตรวจเลือดเพิ่มเติม หรือในบางรายหากแพทย์สงสัยโรคในไขกระดูก จะต้องทำการตรวจไขกระดูก (bone marrow aspiration and biopsy) ร่วมด้วย</p>
<p>&nbsp;</p>
<div style="text-align: right;"><span style="color: #00826a;"><strong>พญ. ณัฐกานต์ ตั้งสุขสมบูรณ์</strong></span></div>
<div>
<div style="text-align: right;">แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเลือด</div>
<div style="text-align: right;">ศูนย์มะเร็ง (ชีวีสุข) โรงพยาบาลพญาไท 1</div>
</div>


ภาวะโลหิตจาง (Anemia) หรือภาวะซีด แม้ไม่ถือเป็นโรค แต่เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้จากหลายโรค โดยอาการที่พบบ่อยคือ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย วูบ เวียนศีรษะ ง่วงนอนมากกว่าปกติ หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น เจ็บหน้าอก เล็บเปราะ ผมร่วง ผิวแห้ง และตัวซีด

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล

ภาวะโลหิตจาง (Anemia) แม้ไม่ใช่โรค แต่สร้างปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้

Tel

Email

บริการ

บทความ

เกี่ยวกับเรา

สาขาโรงพยาบาล