“การที่เราสามารถทำให้คนไข้หายจากความเจ็บป่วย ไม่สบาย หรือหายเจ็บหายปวดได้ มันเป็นความสุขและความภูมิใจอย่างหนึ่ง โดยหลักการที่หมอใช้กับคนไข้มาโดยตลอด คือการให้ความจริงใจ การบอกข้อมูลทางเลือกและวิธีการรักษาอย่างตรงไปตรงมา คิดเสมือนว่าถ้าเขาเป็นคนในครอบครัวเรา เราจะแนะนำยังไง เลือกวิธีไหนในการรักษา และรับฟังความคิดเห็นของเขาด้วย เท่านี้เราก็จะไม่พลาดในการเลือกสิ่งที่ดีที่เหมาะสมให้กับคนไข้ของเราแล้ว”

คุณค่าของการเป็นแพทย์ที่มากกว่าเคยคิดไว้

เมื่อครั้ง นพ.ชัยเวช ฤติวรางค์กูร เป็นนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา คุณหมอมีความสนใจทั้งในด้านวิศวกรรมและด้านการแพทย์ แต่เหตุที่ตัดสินใจเลือกเส้นทางของการเป็นแพทย์นั้น คุณหมอเล่าให้ฟังว่า

“จุดเริ่มต้นจริงๆ เริ่มจากเห็นคนในครอบครัวที่อายุมากขึ้นเริ่มเจ็บป่วย ตอนนั้นจึงมีความคิดว่า ถ้าได้เป็นแพทย์ก็จะมีโอกาสได้ดูแลคนใกล้ตัว คุณพ่อคุณแม่ รวมไปถึงญาติพี่น้องเวลาเจ็บป่วยหรือไม่สบาย และสามารถให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้อง แต่พอได้มาเป็นแพทย์จริงๆ ก็พบว่าคุณค่าของการเป็นแพทย์สามารถสร้างคุณประโยชน์ให้กับคนอื่นๆ ได้อีกมากมายมหาศาล ยิ่งช่วงเป็นแพทย์ใช้ทุนที่ได้ออกไปทำงานในจังหวัดซึ่งห่างไกลความเจริญ ก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงคุณค่าของการเป็นแพทย์ว่าเราสามารถช่วยเหลือคนที่ยากลำบากได้เยอะจริงๆ”

ตรวจวินิจฉัย วางแผนการรักษา และการทำหัตถการ

เมื่อเริ่มต้นชีวิตแพทย์ คุณหมอมีโอกาสรักษาคนไข้ในโรคต่างๆ มากมาย แต่สิ่งที่คุณหมอสนใจและชื่นชอบเป็นพิเศษก็คือการได้ทำหัตถการ จึงเป็นที่มาของการเลือกศึกษาต่อในด้านศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ ที่ รพ.ศิริราช และอนุสาขาศัลยศาสตร์ข้อสะโพกและข้อเข่า ที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ในเวลาต่อมา

“ที่เลือกศึกษาต่อสาขากระดูกและข้อ เพราะรู้สึกว่าเป็นสาขาที่มีทางเลือกในการรักษาที่หลากหลาย มีทั้งการทานยา ฉีดยา การทำกายภาพบำบัด การจัดกระดูกใส่เฝือก ไปจนถึงการผ่าตัด ซึ่งหมอรู้สึกชอบในการทำหัตถการมากกว่าการตรวจรักษาด้วยการใช้ยาเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะการผ่าตัดทางกระดูกจะมีการใช้เครื่องมือที่หลากหลาย และยังได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมถึงมีการวางแผนการรักษาที่เป็นขั้นเป็นตอนอย่างชัดเจน จึงเลือกเรียนต่อทางด้านนี้

ส่วนที่เลือกเรียนเฉพาะทางด้านข้อเข่าข้อสะโพก ก็เริ่มจากตอนที่เรียนด้านศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ หมอได้เห็นการผ่าตัดคนไข้โรคกระดูกในทุกๆ สาขา ก็พบว่าการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าข้อสะโพก เป็นการผ่าตัดที่ได้ผลการรักษาที่ดีมากๆ โดยสามารถช่วยเหลือคนไข้ให้พ้นจากความเจ็บปวดได้ดี คือเห็นได้ชัดเจนว่าคนไข้หลายๆ คนที่แม้กระทั่งตอนแรกยืนยังลำบาก เมื่อได้รับการผ่าตัดแล้ว สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ กลับมาเดินได้ต่อเนื่องหลายๆ กิโลฯ ออกกำลังกายได้ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งไปเที่ยวต่างประเทศก็ยังได้ เรียกว่าการรักษาสามารถเปลี่ยนชีวิตได้เลย จึงตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในสาขานี้”

ใช้ความรู้ความสามารถเพื่อประโยชน์สูงสุดของคนไข้

คุณหมอคิดเสมอว่า กว่าจะศึกษาจบแพทย์เฉพาะทาง และกว่าจะสั่งสมประสบการณ์ในการรักษาจนมีความชำนาญได้นั้น ต้องใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตของคนคนหนึ่งเลยทีเดียว คุณหมอจึงอยากใช้ทุกโอกาสที่มีสร้างประโยชน์ให้กับเพื่อนร่วมอาชีพ โดยครั้งหนึ่งคุณหมอก็เคยเป็นอาจารย์แพทย์ร่วมสอนนักศึกษาแพทย์ในสถาบันของรัฐ และในส่วนของการรักษาคนไข้ในปัจจุบันนั้น คุณหมอบอกว่า…

“หมออยากใช้ความรู้ความสามารถที่มีสร้างประโยชน์ให้ได้มากที่สุด โดยรักษาคนไข้ให้ได้ดีที่สุด ซึ่งก็ต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาการรักษา อัปเดตความรู้และเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุด คนไข้เจ็บน้อยที่สุด และกลับมามีคุณภาพชีวิตได้อย่างที่คาดหวังไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้หมอมีความสุข และรู้สึกภาคภูมิใจในวิชาชีพที่เรารัก”