โรคผิวหนังในเด็กเป็นโรคที่เห็นความผิดปกติได้ชัด และมักกระทบกับคุณภาพชีวิต เช่น การมีผื่นขึ้นแล้วคันก็ทำให้นอนไม่ได้ หรือเกาจนเป็นแผล รวมไปถึงผู้ปกครองอาจมีความกังวลว่าจะเป็นโรคอะไรที่ร้ายแรงหรือเปล่า หากเด็กมีปัญหาด้านผิวหนัง ควรพาเด็กมาตรวจรักษากับกุมารแพทย์ด้านผิวหนัง เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ตรงจุด

 

 

พญ. นวลรัตน์ หาญศิริพันธุ์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังในเด็ก แต่ก่อนที่จะมาเป็นแพทย์ด้านนี้ คุณหมอเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ในการศึกษาและการทำงานว่า. . .

 

“หมอเรียนจบแพทย์ฯ จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต รุ่นที่ 1 ตอนขึ้นปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลเด็ก ตอนนั้นก็ตั้งใจที่จะเป็นหมอเด็กเลย หมอก็ยังมีไปเป็นแพทย์ฝึกทักษะที่โรงพยาบาลลพบุรี กับโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งที่กาญจนบุรีไม่มีหมอเด็กเลย หมอจึงทำหน้าที่เหมือนเป็นหมอเด็กกลายๆ คือรับผิดชอบดูแลคนไข้เด็กทั้งหมดซึ่งเป็นการย้ำว่าเรามีความสุขที่ได้รักษาเด็ก”

 

 

หลังจากเป็นแพทย์ฝึกทักษะแล้ว คุณหมอนวลรัตน์ ได้ศึกษาต่อวุฒิบัตรกุมารเวช ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ เป็นเวลา 3 ปี จากนั้นได้กลับไปเป็นกุมารแพทย์ที่จังหวัดกาญจนบุรีโดยเป็นหมอเด็กเพียงคนเดียวในโรงพยาบาล แต่ด้วยคุณหมออยากเพิ่มพูนความรู้ให้มากขึ้น จึงตัดสินใจศึกษาต่อในอนุสาขาตจวิทยา (โรคผิวหนัง) ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี. . .

 

 

“ที่หมอมาศึกษาต่อด้านโรคผิวหนังเด็ก เพราะเห็นว่าในเคสที่เด็กมีปัญหาผิวหนังมักเป็นส่วนหนึ่งของโรคอื่นๆ ด้วย และอีกอย่างคือหมอเห็นถึงความทุกข์ของพ่อแม่ที่ลูกมีผื่นคัน ซึ่งรบกวนคุณภาพชีวิตของลูก แล้วเรื่องของผิวหนังก็เป็นสิ่งที่ทุกคนมองเห็น คิดว่าน่าจะส่งผลถึงสภาพจิตใจของเด็ก หมอเลยรู้สึกว่าการรักษาโรคผิวหนังนับเป็นการที่เราช่วย save quality of life ให้เด็กได้ และเป็นการคืนคุณภาพชีวิตให้ครอบครัวของเด็กด้วย”

 

 

ทั้งนี้ คุณหมอนวลรัตน์ เป็นกุมารแพทย์ที่ดูแลทั้งโรคทั่วไปของเด็ก และโรคผิวหนังในเด็ก ที่โรงพยาบาลพญาไท 3 มายาวนานกว่า 15 ปี

 

 

หัวใจในการรักษา ผู้ปกครองต้องเข้าใจโรค

โดยทั่วไปแล้วโรคผิวหนังในเด็กจะแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ ในเด็กแรกเกิดหรือว่าเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ โรคที่พบบ่อยคือ ต่อมไขมันอักเสบ ผื่นแพ้น้ำลาย ผื่นผ้าอ้อม แต่ที่พบมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ก็คือโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งเป็นคำกว้างๆ ที่อาจมีข้อบ่งชี้เล็กๆ น้อยๆ ในบางลักษณะอีก คุณหมอนวลรัตน์ จะอธิบายให้ผู้ปกครองเข้าใจและรู้ถึงสาเหตุ เพื่อช่วยให้การรักษาดำเนินไปได้ด้วยดี ส่วนของเด็กโตที่อายุมากกว่า 2 ขวบนั้น โรคผิวหนังที่เกิดขึ้นมักก็มีเรื่องของการติดเชื้อมาด้วย เช่น ผื่นที่เกิดจากไวรัส หรือจากแบคทีเรีย เป็นต้น. . .

 

“หัวใจสำคัญในการดูแลโรคผิวหนังในเด็ก หมอคิดว่าต้องอธิบายให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงตัวโรค รู้ว่าโรคเกิดจากอะไร ทำไมถึงเป็น ทำไมถึงแย่หรือไม่หาย และต้องทำอย่างไรถึงจะดีขึ้น คือถ้าเราตอบคำถามทั้งหมดนี้ได้ บางทีการใช้ยาก็ไม่จำเป็นเลย เช่น โรคผดร้อน หมอก็จะอธิบายให้เข้าใจว่า ผดร้อนเกิดจากเหงื่อนะ มักเป็นตรงจุดไหน ควรหลีกเลี่ยงอะไร อย่างเมื่อเด็กเล่นซนจนมีเหงื่อก็ควรใช้ผ้าเย็นเช็ด อย่าให้เหงื่อค้างอยู่ที่ผิวนาน เมื่อเลี่ยงสาเหตุได้ เด็กก็จะดีขึ้น ไม่ต้องใช้ยาเยอะ เมื่อไหร่จำเป็นต้องใช้ยาค่อยใช้”

 

 

และด้วยความเป็นกันเองของคุณหมอนวลรัตน์ ทำให้ผู้ปกครองสัมผัสได้ถึงความปรารถนาดีที่อยากจะให้เด็กๆ หายจากอาการป่วย แม้ว่าโรคทางกายบางอย่างจะไม่ได้หายในทันทีที่รักษา เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง แต่คุณหมอจะช่วยให้ผู้ปกครองสบายใจได้ว่าเด็กจะไม่เป็นอะไรร้ายแรง และยังมีแนวทางในการดูแลลูกให้ดีขึ้นได้ด้วย การให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งกับเด็กเอง รวมไปถึงผู้ปกครองด้วย ย่อมเกิดเป็นความไว้วางใจ ผู้ปกครองก็กล้าถาม และเมื่อได้คำตอบ การรักษาก็จะดำเนินไปอย่างราบรื่น

 

 

หายจากโรคหรือไม่ ความสุขทางใจต้องมีด้วย

หมอผิวหนังจะได้รับการสอนมาเสมอว่า โรคหรืออาการที่แสดงออกทางผิวหนังเป็นหนึ่งในตัวบอกโรคอื่นๆ ได้ เช่น โรคทางกรรมพันธุ์ คุณหมอนวลรัตน์ จึงให้ความสำคัญกับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ถ้ามีความสงสัยถึงโรคใด ก็จะประสานกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ เพื่อการดูแลร่วมกัน การดูแลคนไข้ของคุณหมอนวลรัตน์ จะเน้นให้คนไข้เป็นศูนย์กลาง การรักษาต้องให้เกิดประโยชน์กับคนไข้มากที่สุด. . .

 

“หลักการของหมอ คือการรักษาให้คนไข้หายจากโรค หมออยากเป็นคุณหมอที่คนไข้ไว้ใจและนึกถึงยามเมื่อเค้าไม่สบาย และหมอจะคิดเสมอว่าจะมีวิธีอย่างไรที่ทำให้คนไข้หายได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาอย่างเดียว เช่น การให้ความรู้กับผู้ปกครองในการดูแลลูกๆ ได้อย่างถูกสุขลักษณะและมีประสิทธิผลที่ดี ส่วนอะไรที่รักษาให้หายไม่ได้ก็ต้องสร้างความสุขทางใจให้คนไข้ด้วย เช่น ปาน ที่รักษาไม่หาย จะทำอย่างไรให้เบาบางลง มีวิธีไหม แล้วทำอย่างไรคนไข้จึงจะอยู่กับปานนั้นได้อย่างไม่ทุกข์ใจ”

 

 

คลินิกนมแม่ ดูแลเพื่อสุขภาพลูกน้อย

นอกจากการรักษาโรคผิวหนังในเด็กแล้ว คุณหมอนวลรัตน์ ยังให้ความสำคัญและร่วมดูแลในส่วนของ ‘คลินิกนมแม่’ ด้วย. . .

 

“สมัยที่เป็นหมอเด็กใหม่ๆ ก็ยังไม่ได้เกี่ยวกับข้องกับเรื่องของนมแม่ แต่เมื่อมามีลูกเอง หมอจึงให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนั่นคืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก หมอจะถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์ของตนเองให้คุณแม่ทุกคนที่หมอพบ เพื่อให้เขาเห็นถึงความสำคัญและคุณประโยชน์ของนมแม่ และสำหรับคุณแม่ที่ไม่มีน้ำนม หมอก็จะให้ทั้งความรู้ เล่าถึงประสบการณ์ และวิธีต่างๆ ที่ทำให้มีน้ำนม ก็พบว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จ ประกอบกับที่โรงพยาบาล พญาไท 3 เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ทำให้คลินิกนมแม่ประสบความสำเร็จ หมออยากให้คุณแม่ทุกคนที่คลอดบุตรที่นี่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนั่นคือพื้นฐานสำคัญของชีวิตทั้งในด้านสุขภาพและในด้านความรู้สึกทางจิตใจ”