พญ. ถนอมสิริ สติฐิต สำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ รพ. รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จากนั้นได้ศึกษาต่อด้านสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา และวุฒิบัตรอนุสาขามะเร็งวิทยา ที่ รพ. ภูมิพลอดุลยเดช เมื่อมีโอกาสยังได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ซึ่งคุณหมอได้เล่าถึงแรงบันดาลใจและประสบการณ์ในการศึกษาว่า. . .

“หมอมีโอกาสได้เดินทางไปศึกษาด้านโรคมะเร็งทางนรีเวชที่ เมโย คลินิก (Mayo Clinic) ซึ่งที่นั่นหมอก็ได้ฝึกฝนและได้เรียนรู้การรักษาแบบใหม่ๆ มาด้วย การได้ศึกษาในสถาบันวิจัยทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งในอเมริกา ทำให้หมอพัฒนาความรู้และได้เห็นนวัตกรรมในการรักษาที่กว้างขวางขึ้น การไปครั้งนั้นหมอยังได้ศึกษาดูงานที่ Seattle Cancer Care Alliance (SCCA) ซึ่งเป็นสถาบันมะเร็งที่มีความโดดเด่นในอเมริกา จนทุกวันนี้หมอก็ยังนำความรู้ในการรักษามะเร็งนรีเวชมาใช้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังอัปเดตความรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอด เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ”

มะเร็งนรีเวช ที่คุณหมอเชี่ยวชาญการรักษา

จากความสนใจในการศึกษาเกี่ยวกับโรคมะเร็งทางนรีเวชมาโดยตรง ซึ่งปัจจุบันโรคในกลุ่มนี้พบได้มากขึ้นในคนไทย ในทุกการรักษาคุณหมอถนอมศิริจะมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างเต็มที่ ด้วยโรคในกลุ่มมะเร็งเป็นโรคที่ร้ายแรงและต้องใช้เวลาในการรักษา โอกาสในการรักษาหายก็อยู่ที่ระยะของโรคและอวัยวะที่เป็น รวมถึงการตอบสนองต่อยาที่ใช้และอีกหลายปัจจัย. . .

“ปัจจุบัน ทั้งวิชาความรู้และการพัฒนาการในการรักษามะเร็งนั้นดีขึ้นมาก รวมถึงการมียา มีเครื่องมือและเวชภัณฑ์ดีๆ มากขึ้น ทำให้โอกาสในการรักษาหายนั้นเพิ่มขึ้นด้วย แต่หมอคิดว่าการสนับสนุนให้มีการป้องกันโรคมะเร็ง มีการตรวจคัดกรองที่ดีย่อมมีประโยชน์กว่า เพราะหากตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้นก็สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที ผลการรักษาก็มักมีประสิทธิภาพสูง โอกาสหายดีหรือหายขาดไปเลยก็มีมากกว่าด้วย

ในส่วนของการรักษาคนไข้มะเร็งของหมอ นอกจากการรักษาตัวโรคแล้ว หมอจะดูถึงความรู้สึกของผู้ป่วยด้วย คือต้องดูแลทางด้านจิตใจควบคู่ไปกับการรักษาทางด้านร่างกาย เพื่อเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว และให้คนไข้อยู่อย่างมีความสุขแม้ขณะทำการรักษา”

การดูแลรักษาคนไข้ ร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพ

ในการรักษาโรคมะเร็งในสตรีจะต้องอาศัยการร่วมมือกัน จากทั้งคุณหมอถนอมศิริ ที่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งนรีเวช และบุคลากรในสหสาขาวิชาชีพ เพื่อให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุด ซึ่งในแต่ละเคส ก็สร้างความประทับใจให้กับคุณหมอแตกต่างกันไป. . .

“หมอขอยกตัวอย่างผู้ป่วยมะเร็งรังไข่คนหนึ่ง คนไข้ท่านนี้เป็นช่าวต่างชาติ อายุ 73 ปี มีการตรวจพบมะเร็งรังไข่ซึ่งเป็นในระยะที่ 4 และยังพบน้ำคั่งบริเวณช่องท้องและปอดด้วย ทำให้มีความเสี่ยงในการผ่าตัด เพราะการผ่าตัดในผู้สูงอายุมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย จึงต้องใช้ความสามารถของทีมแพทย์เฉพาะทางหลายสาขามาร่วมกันประเมินความเสี่ยงและผลกระทบในการรักษาแบบบูรณาการ จึงออกมาเป็นแผนการผ่าตัดที่ครอบคลุม ซึ่งหลังจากคนไข้ได้รับการรักษาและทำการผ่าตัดแล้ว คนไข้ก็กลับมามีสุขภาพดี สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ จึงถือเป็นเคสที่ผ่าตัดที่สำเร็จดัในคนไข้อายุมากและเป็นมะเร็งในระยะที่ 4 แล้ว”