นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด

บทนำ
บริษัท โรงพยาบาลพญาไท จำกัด ในฐานะผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลพญาไท (“โรงพยาบาล”) โดยมีการติดตั้งและใช้อุปกรณ์กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในการเฝ้าดูแลพื้นที่ภายในและโดยรอบสถานที่ อาคาร เพื่อคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สินของผู้เข้ารับบริการ ผู้ติดต่อ บุคลากรในโรงพยาบาล ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง หรือบุคคลใดๆ ทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (เรียกรวมกันว่า ท่าน) ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล โรงพยาบาลมีหน้าที่ตามกฎหมายในการชี้แจงเอกสารฉบับนี้ให้ท่านทราบถึงเหตุผลและวิธีการที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ โรงพยาบาลยืนยันว่าได้ดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังที่จะกล่าวในนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิดฉบับนี้ ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด

ขอบเขตนโยบาย
นโยบายนี้ครอบคลุมถึง

  • วิธีที่บริษัทฯ ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
  • วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิของท่าน
  • มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด

วิธีที่บริษัทฯ ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ

โรงพยาบาลเก็บรวบรวมภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวของท่าน และภาพสิ่งของ หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้ เมื่อท่านเข้าสู่พื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด 

  • บันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวของท่าน รูปภาพ เสียง และภาพสิ่งของ เช่น ทรัพย์สิน ยานพาหนะ ทะเบียนรถยนต์ หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้ เมื่อท่านเข้าสู่พื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของโรงพยาบาล
  • ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลการจดจำใบหน้า (Face Scan/ Face Recognition) ข้อมูลการจดจำเสียง เป็นต้น

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ผ่านเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ หรือบุคคลใดๆ ซึ่งมีความเกี่ยวข้อง หรือที่จะกระทำการแทนหรือในนามบริษัทฯ ที่จำเป็นในการควบคุมและรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารและสถานที่ของบริษัทฯ อาจอาศัย (1) ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate interest) และ (2) ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation) ดังนี้

โรงพยาบาลอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งได้แก่         
(1)            ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย       
(2)            ฐานการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน  
(3)            ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(4)            ฐานการขอความยินยอมกรณีเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว

ทั้งนี้ โรงพยาบาลจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (1) ถึง (4) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้             

  • เพื่อการตรวจสอบและการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของโรงพยาบาล และการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย รวมถึงการเข้าและออกเพื่อปฏิบัติงานในสถานที่ของโรงพยาบาล การแลกบัตรเข้าออกอาคารหรือสถานที่ของโรงพยาบาล และการบันทึกข้อมูลการเข้าออกสถานที่ของโรงพยาบาล และการบันทึกภาพภายในอาคารหรือสำนักงาน หรือบริเวณพื้นที่โดยรอบด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)
  • เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่พนักงาน ผู้ใช้บริการ และบุคคลอื่นที่เข้ามาภายในอาคารและสถานที่ รวมถึงการดูแลทรัพย์สินของบริษัทไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าออกเขตหวงห้าม
  • เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงทรัพย์สินของท่าน
  • เพื่อปกป้องอาคาร สถานที่ และทรัพย์สินจากความเสียหาย ความขัดข้อง การทำลายทรัพย์สิน และอาชญากรรมอื่นๆ
  • เพื่อสนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการขัดขวาง ป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรม รวมถึงการฟ้องร้องเมื่อเกิดอาชญากรรม
  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายตามที่หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายร้องขอ หรือใช้เพื่อเป็นพยานหลักฐานกรณีเกิดเหตุอาชญากรรม หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในหรือบริเวณอาคารและสถานที่
  • เพื่อช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพื่อช่วยเหลือในการสอบสวนหรือกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเบาะแส
  • เพื่อสนับสนุนในการก่อตั้งสิทธิหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ คดีทางแพ่ง และคดีแรงงาน
  • เพื่อการกระทำการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามที่ได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้

ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการประมวลผลใดๆ ต่อข้อมูลส่วนตัวของท่านนอกเหนือไปที่วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ บริษัทฯ จะแจ้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไว้ที่เว็บไซต์ www.phyathai.com ให้ท่านทราบ

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เก็บรวบรวมผ่านระบบกล้องวงจรปิดดังกล่าวข้างต้นให้แก่บุคคลภายนอก อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล  เป็นต้น

ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งต่อท่านหรือจัดเก็บตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือตามอายุความ หรือเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโรงพยาบาลจะทำการลบข้อมูลออกจากระบบและบันทึกของโรงพยาบาล หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้

สิทธิของท่าน
ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

รายละเอียด

1.สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านและอยู่ในความดูแลของบริษัทฯ เฉพาะข้อมูลที่ท่านได้ให้ความยินยอม หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมได้ บริษัทฯ จะจัดส่งสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้ท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำขอ และ/หรือตามที่กฏหมายกำหนด ทั้งนี้ในบางกรณีบริษัทฯ อาจทำการขอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตัวตนและสิทธิของท่านอันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

2.สิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นด้วยวิธีอัตโนมัติ และมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้

3.สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านเมื่อใดก็ได้ ในกรณีตัวอย่างดังต่อไปนี้

1.เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
2.เพื่อการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือ สถิติเว้นแต่เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

4.สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

ท่านมีสิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เฉพาะข้อมูลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

1.เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

2.เมื่อท่านถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยได้ต่อไป

3.เมื่อท่านคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะปฏิเสธได้
4.เมื่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

5.สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการขอให้ระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้
1.อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลว่ามีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ หรือไม่
2.เป็นข้อมูลที่ต้องลบหรือทำลายเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ท่านขอให้ระงับแทน
3.เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ท่านยังมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
4.เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการพิสูจน์สิทธิในการปฏิเสธคำขอการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่เมื่อการถอนความยินยอมนั้นถูกจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

7.สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน

บริษัทฯ ต้องดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัทฯ จะบันทึกการปฏิเสธดังกล่าวพร้อมด้วยเหตุผลลงในบันทึกรายการ

8.สิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ

ท่านมีสิทธิร้องเรียนในกรณีที่บริษัทฯ หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศที่ออกตามพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การใช้สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสามารถทำได้ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการใช้สิทธิต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน  ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) / เจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการ ยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้น ได้ที่ 

สถานที่ติดต่อ

E-Mail

เบอร์โทร

โรงพยาบาลพญาไท 1

[email protected]

โทร. 02-201-4600

โรงพยาบาลพญาไท 2

[email protected]

โทร. 02-271-6700

โรงพยาบาลพญาไท 3

[email protected]

โทร. 02-467-1111

โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์

[email protected]

โทร. 02-944-1111

โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา

[email protected]

โทร. 038-317-333

มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โรงพยาบาลจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ขอรับรองว่าข้อมูลที่จัดเก็บทั้งหมดจะถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด หากท่านมีเหตุให้เชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกละเมิด หรือมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิดฉบับนี้กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ

การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด
บริษัทฯ สงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิดได้ตลอดเวลาตามที่เห็นสมควร โดยแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงดังกล่าวเอาไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

ติดต่อเรา
ท่านสามารถติดต่อผู้ควบคุมข้อมูล สอบถามหรือใช้สิทธิใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่เครือโรงพยาบาลพญาไท

สถานที่ติดต่อ

ที่อยู่

โรงพยาบาลพญาไท 1 

364/1 ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400

โรงพยาบาลพญาไท 2

943 ถ.พหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400

โรงพยาบาลพญาไท 3

111 ถนน เพชรเกษม แขวง ปากคลองฯ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 10160

โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์

44, 505 ถนนนวมินทร์ แขวง นวลจันทร์ เขต บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230

โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา

90 ถนนศรีราชานคร3 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20110