Wound Care Center หรือ รพ.พญาไท พหลโยธิน ให้บริการรักษาแผลทุกประเภทโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ทั้งแผลเบาหวาน แผลกดทับ แผลไฟไหม้ แผลน้ำร้อนลวก แผลจากอุบัติเหตุ แผลติดเชื้อ แผลหลังผ่าตัด รวมถึงแผลที่ซับซ้อนในผู้ป่วยสูงอายุ และผู้ป่วยเบาหวาน ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เช่น เลเซอร์รักษาแผล Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) การรักษาแผลด้วยแรงดันลบ Negative Pressure Wound Therapy (NPWT) และวัสดุปิดแผลขั้นสูง Bioactive Dressings
ดูแลแผลอย่างถูกต้อง ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง และเทคโนโลยีการรักษาแผลที่ทันสมัย
Wound Care Center รพ.พญาไท พหลโยธิน ให้การดูแลรักษาแผลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลจากอุบัติเหตุ แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก น้ำมันลวก หรือแผลเรื้อรัง เช่น แผลเบาหวานและแผลกดทับ เพราะเราเชื่อว่าการได้รับการดูแลแผลอย่างถูกวิธี และมีประสิทธิภาพตั้งแต่เริ่มเกิดแผล ไม่เพียงช่วยให้แผลหายดีอย่างมีคุณภาพ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ ทำให้เนื้อเยื่อฟื้นฟูได้ดี เร็วขึ้น และลดโอกาสการเกิดแผลเป็นได้อีกด้วย
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
การรักษาแผลและศัลยกรรมแผลทุกประเภท ด้วยเทคนิคและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์
ศูนย์ศัลยกรรม มุ่งเน้นการดูแลรักษาแผลทุกประเภทด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูงในการดูแลแผลที่ซับซ้อน มีการใช้ระบบการประเมินแผลอัจฉริยะ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อการฟื้นฟูแผลที่รวดเร็ว ลดภาวะแทรกซ้อน การติดเชื้อ และการอักเสบ รวมถึงการฟื้นฟูผิวหลังการรักษาเสร็จสิ้น เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น
- แผลจากอุบัติเหตุ แผลไฟไหม้ แผลจากไฟช็อต น้ำร้อนหรือน้ำมันลวก เช่น นวัตกรรมแผ่นซิลิโคนเจลปิดแผล (Silicone Gel Sheet) ที่ช่วยลดการอักเสบ และป้องกันการเกิดแผลเป็นหลังแผลหาย การฟื้นฟูแผลด้วยเลเซอร์ (Laser Therapy) และคลื่นเสียงความถี่สูง (High-Frequency Ultrasound) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และเพิ่มการไหลเวียนเลือดเพื่อเร่งกระบวนการสมานแผล ทำให้ผิวเรียบเนียน และดูดีเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปลูกถ่ายผิวหนัง (Skin Grafting) สำหรับแผลลึกอีกด้วย
- แผลเบาหวาน แผลเรื้อรัง และแผลหายช้า ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง มีการรักษาโดยการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ฟื้นฟูเนื้อเยื่อ เร่งการสมานแผล ที่ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และลดการเกิดแผลซ้ำในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีการทำหัตถการ เช่น การตัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว (Debridement) การผ่าตัดเฉพาะจุด หรือการผ่าตัดบริเวณเท้าที่เกิดแผล เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด
- แผลกดทับในผู้ป่วยติดเตียง ให้การรักษาที่ช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูผิว เช่น เลเซอร์บำบัด คลื่นเสียงความถี่สูง แผ่นซิลิโคนเจล การบำบัดด้วยออกซิเจนแรงดันสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy: HBOT) และวัสดุปิดแผลขั้นสูง (Advanced Wound Dressing) พร้อมให้คำแนะนำแนวทางการป้องกันแผลกดทับในอนาคต
- แผลติดเชื้อ การรักษาด้วยเทคนิคที่ทันสมัย เช่น การใช้พลาสติกชีวภาพ (Bioactive Dressings) และการใช้แสงช่วยฆ่าเชื้อโรค (Photodynamic Therapy) ซึ่งช่วยลดการติดเชื้อ และกระตุ้นการฟื้นฟูแผลได้เร็วขึ้นโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อดี ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน นอกจากนี้ ยังมีการใช้ยาปฏิชีวนะในรูปแบบนาโน (Nanomedicine) เพื่อส่งยาปฏิชีวนะไปยังแผลโดยตรง โดยไม่ทำลายเซลล์ดี
- แผลคีลอยด์ (Keloid) แผลนูน หรือแผลที่มีการสร้างเนื้อเยื่อผิดปกติ มุ่งเน้นการรักษาเพื่อลดความนูนของแผล และปรับปรุงรูปลักษณ์ของผิวหนังให้เรียบเนียน โดยมีการใช้เลเซอร์บำบัด การผ่าตัด (Surgical Treatment) การขัดกรอผิวหนัง (Dermabrasion) รวมถึงการฉายรังสี (Radiotherapy) ปริมาณต่ำ ซึ่งช่วยยับยั้งการสร้างคอลลาเจน และลดความเสี่ยงในการเกิดแผลซ้ำ
- แผลหายยาก เช่น แผลขนาดใหญ่ หรือแผลที่มีการติดเชื้อ ซึ่งต้องการการรักษาเฉพาะ มีการใช้เทคโนโลยีแรงดันลบ (Negative Pressure Wound Therapy: NPWT) เพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ และเร่งกระบวนการสมานแผลให้เร็วขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเจ็บปวดจากการทำแผลบ่อยครั้ง และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
- การป้องกัน และดูแลแผลในกลุ่มผู้ป่วยเฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เพื่อลดโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ และเร่งกระบวนการสมานแผล เช่น วัสดุปิดแผลขั้นสูง หรือการรักษาด้วยแรงดันลบที่ช่วยให้แผลหายเร็ว ทำให้ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการฟื้นตัว และกลับสู่ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
- แผลจากเส้นเลือดแดง หรือดำตีบตัน การรักษามุ่งเน้นที่การเพิ่มการไหลเวียนเลือด เช่น การใช้ยาเพิ่มการไหลเวียน หรือการผ่าตัดหลอดเลือดเพื่อปรับปรุงระบบไหลเวียนในบริเวณที่มีปัญหา โดยเฉพาะการขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน (Angioplasty) ซึ่งช่วยเบียดคราบไขมัน และขยายหลอดเลือดที่ตีบตันให้กว้างขึ้น ในกรณีที่แผลเกี่ยวข้องกับระบบหลอดเลือดดำ การใช้ผ้าพันแผล หรือถุงน่องบีบรัดขาจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียน ลดอาการบวม และลดความเสี่ยงของแผลใหม่ สำหรับผู้ที่มีเส้นเลือดขอด การใส่ถุงน่องเฉพาะทางสามารถช่วยลดอาการปวดและบวม เพิ่มการไหลเวียนเลือด และชะลอการเกิดแผลซ้ำ
- แผลจากการฉายรังสี มีเทคโนโลยีที่ช่วยเร่งการสมานแผลและลดภาวะแทรกซ้อน เช่น การใช้แผ่นปิดแผลชนิด Hydrocolloid หรือ Hydrogel ซึ่งช่วยให้แผลชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองและป้องกันการติดเชื้อ แผ่นเจลซิลิโคน (Silicone Gel Sheet) ที่ช่วยลดรอยแผลเป็นและอาการคันหลังการรักษา นอกจากนี้ยังมีการใช้แสงเลเซอร์พลังงานต่ำ (Low-Level Laser Therapy: LLLT) เพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดการอักเสบและอาการเจ็บแผล การบำบัดด้วยแรงดันลบ ช่วยในการดูดของเหลวจากแผลและเร่งการฟื้นฟู โดยเฉพาะในกรณีแผลลึกหรือมีการติดเชื้อ และการใช้พลาสมาเย็น (Cold Atmospheric Plasma) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดแบคทีเรียและส่งเสริมการสมานแผล
- แผลจากการผ่าตัด และแผลจากการศัลยกรรม มีการใช้วัสดุปิดแผลขั้นสูงที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อและเร่งการฟื้นฟู การใช้เลเซอร์บำบัด เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดรอยแผลเป็น การขัดกรอผิว (Dermabrasion) หรือการใช้แผ่นซิลิโคนเจลเพื่อป้องกันการเกิดคีลอยด์ สำหรับแผลที่มีขนาดใหญ่ หรือหายช้า อาจพิจารณาใช้เทคนิคแรงดันลบเพื่อเร่งการสมานแผล และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ทั้งนี้การประเมินแผล และการติดตามผลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
![]() |
![]() |
![]() |
ทำไมต้องเลือกโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน?
ที่โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน เราตระหนักว่าทุกบาดแผลที่เกิดขึ้นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมและดีที่สุด เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านการดูแลแผล พร้อมด้วยสหสาขาวิชาชีพ อาทิ พยาบาลเฉพาะทางด้านการดูแผล เภสัชกร นักกายภาพบำบัด และนักโภชนาการ ที่จะทำงานร่วมกันในการวางแผนการรักษา เพื่อการฟื้นฟูแผลที่ครอบคลุมในทุกมิติ นอกจากนี้ เรายังนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ที่ช่วยให้การดูแลรักษาแผลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดภาวะแทรกซ้อน ทั้งยังช่วยลดโอกาสการเกิดแผลเป็น อาทิ
- Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) : การรักษาแผลด้วยออกซิเจนบำบัดแรงดันสูง ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ กระตุ้นการสร้างเส้นเลือดฝอยใหม่ และเร่งกระบวนการสมานแผล โดยเฉพาะแผลเรื้อรัง และแผลเบาหวาน ทั้งยังช่วยลดการติดเชื้อและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- Negative Pressure Wound Therapy (NPWT) : การรักษาแผลด้วยแรงดันลบ ช่วยดูดสารคัดหลั่งส่วนเกิน กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้แผลแห้งเร็ว ไม่ต้องเปิดแผล หรือเปลี่ยนผ้าปิดแผลบ่อยๆ และลดการติดเชื้อในบริเวณแผล
- Transcutaneous Oxygen Monitoring (TCOM) : การวัดระดับออกซิเจนผ่านผิวหนังแบบ Real Time ใช้ประเมินสภาพของเนื้อเยื่อ และการไหลเวียนของเลือดบริเวณแผล ช่วยวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในแผลเรื้อรัง และผู้ป่วยโรคหลอดเลือด
- Radiofrequency Shockwave Therapy : การบำบัดด้วยคลื่นกระแทกความถี่วิทยุ กระตุ้นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ลดอาการปวด และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในบริเวณแผล ช่วยเร่งการหายของแผลอย่างเป็นธรรมชาติ
- 3D Bi-Plane Imaging : เทคโนโลยีเอกซเรย์ที่ให้ภาพแบบ 3 มิติเสมือนจริง ช่วยในการวินิจฉัยและรักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบหลอดเลือด และแผลลึกอย่างแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนการรักษา
- Prosthesis Solutions : บริการเทคโนโลยีขาเทียม และอวัยวะเทียม ด้วยการออกแบบเฉพาะบุคคล เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยที่สูญเสียอวัยวะกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ใกล้เคียงปกติที่สุด
แผลทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นแผลใหม่ แผลเรื้อรัง หรือแผลติดเชื้อ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว Wound Care Center รพ.พญาไท พหลโยธิน พร้อมให้บริการ ด้วยเทคโนโลยีการรักษาแผลที่ทันสมัย ทำการรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านการดูแลแผล พร้อมการวางแผนฟื้นฟูแผลอย่างเป็นระบบและเหมาะสมเป็นรายบุคคล จึงมั่นใจได้ในประสิทธิภาพ ที่จะทำให้ท่านกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ศูนย์ศัลยกรรม อาคาร 1 ชั้น 4
โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน โทร 1772
#WoundCare #WoundCenter #burnwound #burnunit #burncenter